กรณีนายชู สอนสุข อายุ 66 ปี และนางอู๊ด สอนสุข อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหมู่ 7 ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เดินทางเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท ขอความเป็นธรรมหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สรรพยา เรียกตัวไปรับทราบข้อกล่าวหา และแจ้งข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า เป็นผู้มีอิทธิพล แถมยังถูกอายัดทรัพย์สิน บ้าน รถจักรยานยนต์ วัว 13 ตัว เดือดร้อนจนถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว 2 ผัวเมียเลี้ยงวัวร้องสื่อ ถูกจับเป็นผู้มีอิทธิพล ยึดทรัพย์เกลี้ยง เครียดจัดชวนกันผูกคอตายทั้งบ้านมาแล้ว

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ศาลาริมถนนสายเอเชีย กม.119+420 บริเวณตำบลหาดอาษา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายชู สอนสุข อายุ 66 ปี และนางอู๊ด สอนสุข อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา ตัดสินใจเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อนำหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ยื่นต่อสำนักพระราชวังและนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือ โดยมีชาวบ้านประมาณ 100 คน แห่มาให้กำลังใจ 2 ผัวเมีย พร้อมบริจาคเงินค่ารถรับจ้างให้กับทั้งสองคนด้วย

นางอู๊ด กล่าวทั้งน้ำตาว่า “วันนี้ตนจะเดินทางไปเรียกร้องขอความยุติธรรมจากนายกรัฐมนตรี จากที่ตนถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่สาธารณะ คนจนอย่างฉันไม่มีที่อยู่อาศัยแล้ว เขามาขับไล่เพื่อจะเอาเป็นของตัวเอง ตนไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ขอความเป็นธรรมจากท่านนายกฯด้วยนะคะ ไม่งั้นคงต้องผูกคอตายกันทั้งครอบครัว

ขอขอบคุณเพื่อนบ้านที่เอาเงินมาช่วยค่ารถเดินทางไปหานายกรัฐมนตรี เพราะฉันไม่มีเงินติดตัวเลย โดยยึดหมดแล้วทั้งบ้านทั้งวัวทรัพย์สินเขายึดหมดแล้ว เหลือแต่หัวใจกับชีวิต หากไม่ได้คงต้องผูกคอตาย หมดแล้วที่พึ่ง ขอพึ่งท่านนายก ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว เขาร้องเรียนมาตลอด 5-6 ปีไม่เคยมีความสุขเลย สภาพร่างกายเรารับไม่ไหวแล้วขอความเป็นธรรมจากท่านนายกด้วย คนที่ร้องเขาใหญ่โตถึงกับปลดคนที่มาช่วยเหลือตนเอง ขอให้ช่วยเหลือลูกด้วยเถิด”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน