สมอ. ลุยปราบ-ยึด-ทำลาย สินค้าไม่ได้มาตรฐาน มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท วันนี้นำไปทำลายทิ้งกว่า 3 แสนชิ้น

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายจุลพงษ์ ทวีศรี ประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562-31 ก.ค.2563 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้อายัดสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั้งที่จำหน่ายในท้องตลาด และทางออนไลน์ เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้า 7 ประเภท คือ 1.เหล็กและวัสดุก่อสร้าง 2.เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ไดร์เป่าผม เตารีด เต้ารับเต้าเสียบ พัดลม เตาปิ้ง เตาย่าง กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว หลอดไฟ และกระทะ

นายจุลพงษ์ ทวีศรี

3.ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ ยางล้อ ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 4.ปิโตรเลียม เคมี และพอลิเมอร์ เช่น หมวกกันน็อค ถังน้ำพลาสติก ท่อพีวีซี และฟิล์มหุ้มอาหาร 5.ผลิตภัณฑ์โภคภัณฑ์ ได้แก่ ของเล่น 6.ผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น น้ำดื่ม วุ้นเส้น และ 7.ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ ถุงมือทางการแพทย์ สินค้าเหล่านี้เมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการทำลายที่ได้มาตรฐาน เหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ด้านนายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่าสมอ. ได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด โรงไฟฟ้ามาบตาพุด อีโค่-เอ็นเนอร์ยี แพลนท์ ซึ่งเป็นโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่สมอ. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ลงพื้นที่ตรวจจับและยึดอายัดไว้ จำนวนกว่า 350,000 ชิ้น มูลค่ารวม 33,760,000 บาท ประกอบด้วยสินค้าหลายชนิด เช่น กระทะไฟฟ้า ก๊อกน้ำ ของเล่น ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ หมวกนิรภัย เตารีด พัดลม เตาปิ้งย่าง และสวิตซ์ไฟฟ้า เป็นต้น

นายวันชัย พนมชัย

“เมื่อคดีสิ้นสุดแล้วสินค้าที่ตรวจจับและอายัดจะเข้าสู่กระบวนการทำลายให้สิ้นสภาพด้วยวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเหล่านี้กลับไปหมุนเวียนในท้องตลาดหรือนำกลับมาใช้ได้อีก เพราะสินค้าบางรายการอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยกระบวนการนี้ทำให้ไม่เหลือขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดเพิ่ม นอกจากวัสดุที่เป็นผลพลอยได้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน”

สำหรับโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรมสามารถรองรับขยะอุตสาหกรรมได้หลากหลายประเภทและขนาด ทั้งอันตรายและไม่เป็นอันตราย โดยกระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอนเป็นแบบระบบปิด มีระบบการควบคุมมลพิษ และของเสียตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่การรับขยะอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการ การขนส่งไปยังจุดคัดแยกประเภทเพื่อเตรียมกำจัด การเข้าสู่กระบวนการกำจัดด้วยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น ร่วมกับแอชเมลติ้ง (Gasification with Ash Melting) ซึ่งเศษวัสดุที่ได้จากการเผาไหม้ เช่น อะลูมิเนียม เหล็ก เถ้าลอย ยังนำกลับไปใช้ใหม่ได้ ส่วนวัสดุเผาไหม้ไม่ได้ (Incombustible) สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบแทนการก่อสร้างถนนได้

อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนไปยังผู้ทำ ผู้นำเข้า ผู้ขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานด้วยว่า อย่าได้พยายามฝ่าฝืนกฎหมาย มิฉะนั้น นอกจากจะโดนดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว สินค้าของท่านจะต้องพบจุดจบที่เตาเผาแบบนี้ และท่านยังจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจากการทำลายสินค้าอีกด้วย สำหรับประชาชนผู้ซื้อสินค้า ขอให้ซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. ที่ตัวสินค้าเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน