จากกรณี นายอภิชาติ แย้มอยู่ อายุ 55 ปี ชาว จ.สมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายกนก ขุนพรหม อายุ 33 ปี ลูกเขย เข้าร้องเรียนกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร หลัง น.ส.กฤษณา แย้มอยู่ อายุ 33 ปี ลูกสาวผ่าคลอดที่ ร.พ.แห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ก่อนเสียชีวิตระหว่างพักฟื้นที่บ้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว พ่อร้องทนาย! รพ.ผ่าคลอดลูกสาว ก่อนเสียชีวิต สามีเล่าระทึก นาทีเกิดเหตุ ยันไม่เผาศพ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 25 ส.ค. ที่ห้องประชุมศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี จ.ราชบุรี นายวิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี พร้อม นพ.สมเกียรติ อรุณภาคมงคล รองผู้อำนวยการศูนย์ด้านบริการ ร่วมแถลงชี้แจงกรณีดังกล่าว

นายวิเชียร เปิดเผยว่า จากการสืบประวัติผู้รับบริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพที่ 5 ได้มาเสียชีวิตหลังจากผ่าตัดและไปรักษาตัวที่บ้านหลังจากผ่าตัดคลอด 15 วัน ดูจากประวัติแล้วผู้รับบริการได้มาคลอดเป็นท้องที่ 2 มารับการผ่าตัดคลอด ตรงจุดฝากครรภ์ได้มีการตรวจวัดความดันพบว่ามีความดันสูง ไม่มีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เบื้องต้นมีแค่ภาวะความดันสูงขณะตั้งครรภ์ จึงเป็นภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด จากการที่ลูกดิ้นน้อยลง

ได้ส่งตรวจผลคลื่นหัวใจของเด็กในครรภ์พบว่าปกติอยู่ แต่ตัวมดลูกเรื่องของการปวดลำตัวความดันอยู่ในช่วง 120-154 พอเป็นเช่นนี้ได้มีการประเมินภาวะความพร้อมของแม่และเด็กในท้องด้วย จึงได้แจ้งให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจในการผ่าตัดคลอด หลังผ่าตัดเด็กคลอดมาแล้วพบว่ามีภาวะเลือดออกค่อนข้างมากในขณะผ่าตัด และพบว่าตัวรกเกาะติดแน่นบริเวณด้านหน้ามดลูก ซึ่งเป็นรอยผ่าตัดคลอดครั้งที่แล้วจากที่ กทม.

ซึ่งการที่มีเลือดออกมากนั้นในการให้ยา เพื่อให้บีบรัดมดลูกแข็งตัว เพื่อให้เลือดออกน้อยลง เป็นข้อห้ามที่เคสที่มีภาวะความดันสูง คุณหมอจึงจำเป็นต้องใช้เทคนิคการผ่าตัดเย็บมดลูกทางเทคนิค เป็นการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดจากที่ผ่าตัดมีเลือดออกแล้ว 600 ซีซี ถือว่าค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องเย็บมดลูกเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังจากที่คลอดไปแล้ว โดยใช้เวลาผ่าตัดประมาณกว่า 30 นาที

หลังผ่าตัดทั้งวันที่ 1 และ 2 ทำให้ความดันลดลงมาตามลำดับ และได้กลับบ้านไป โดยคุณแม่ได้พามาตรวจตามนัด ความดันของแม่เด็กยังมีสูงอยู่เล็กน้อย ประมาณ 150 ต่อมาอีกประมาณ 15 วัน หลังคลอดได้ทราบข้อมูลจากทางญาติว่า ผู้ป่วยได้ให้นมบุตรอยู่มีการพูดคุยปกติ ประมาณตี 4 ครึ่งมีอาการชักเกร็ง ได้นำส่งโรงพยาบาลแม่กลอง 2 ทราบว่ามีการกู้ชีพตลอดทางและเสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาลแม่กลอง 2

พอทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการประชุมหารือกันภายในโรงพยาบาลกัน พร้อมตรวจวิเคราะห์ทั้งส่วนห้องผ่าตัดถือจุดความเสี่ยงต่างๆ ทั้งเรื่องของผลทางนิติเวชทางโรงพยาบาลราชบุรี ส่วยผลการเสียชีวิตนั้น สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อมดลูกอักเสบติดเชื้อ เลยทำให้มาวิเคราะห์ตัวของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ว่าจะเป็นประเด็นไหนได้บ้าง เพื่อหาสาเหตุที่คิดว่าจะเกิดจากการติดเชื้อได้มีอีกหรือไม่ ส่วนของรายละเอียดผลของการชันสูตรพลิกศพนั้น กำลังรอผล ซึ่งจะมีการนำเข้ามาประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กระดับเขต ผลสรุปของคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาเข้ามาร่วม ผลเป็นอย่างไรคงได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ช่วงที่แม่พาลูกมาตรวจที่โรงพยาบาลวันที่นัดดูแล 1 สัปดาห์นั้น เป็นวันที่ 16 ส.ค. ทางแม่ไม่ได้เข้าตรวจตามที่โรงพยาบาลได้นัดไว้ด้วย แต่ได้มีการพูดคุยกับทางแม่แล้วบอกสบายดี จึงไม่ได้ตรวจบาดแผลตามที่นัดไว้ ปกติถ้ามีการอักเสบก็น่าจะต้องมีอาการร่วมด้วย แต่สอบถามแล้วบอกไม่มีอาการ

ส่วนกรณีหากผลตรวจพบการเสียชีวิตมาจากการติดเชื้อในโรงพยาบาลนั้น ทาง นพ.สมเกียรติ อรุณภาคมงคล รองผู้อำนวยการศูนย์ด้านบริการ เปิดเผยว่า ประเด็นนี้ต้องพูดคุยกันก่อน ทั้งในแง่ทางการแพทย์และเรื่องบทบาทหน้าที่ต่อสังคมกับการรับผิดชอบ และต้องอาศัยกลไกซึ่งเป็นเรื่องที่คนอื่นจะต้องตรวจสอบเรา เพื่อให้เราตรวจสอบตัวเอง จะให้กรรมการระดับเขตตรวจสอบเรา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่แล้ว

จากการตรวจสอบข้อมูลทั้งก่อนหน้าเล็กน้อยและหลังจากเคสกรณีผ่าตัดนี้ไปจนถึงปัจจุบัน ตรวจสอบแล้วยังไม่พบปัญหาการติดเชื้อใดๆ ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบวัสดุ อุปกรณ์ น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ในห้องผ่าตัดด้วย ซึ่งต้องเพาะเชื้อวัสดุอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดและยังต้องรอผลอีกสักระยะหนึ่ง

โดยเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณเที่ยง ทางโรงพยาบาลได้รับโทรศัพท์มาว่า มีคนที่มาคลอดเสียชีวิตแล้ว จึงเร่งสืบค้นข้อมูลตรวจสอบระบบทั้งโรงพยาบาล วันนั้นได้เดินทางไปร่วมพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิต พร้อมสอบถามรายละเอียดที่เกี่ยวข้องด้วย โดยได้สอบถามครอบครัวแล้วบอกว่าอยากขอความเป็นธรรม หากเป็นความผิดปกติของตัวโรงพยาบาลหรือห้องผ่าตัด ก็ไม่อยากจะให้มีเรื่องกับผู้รับบริการรายอื่นๆ อีก ส่วนตัวผลของนิติเวชนั้น ทางคณะกรรมการจะนำมาวิเคราะห์เรื่องของความเป็นไปได้ของสาเหตุการตายในพรุ่งนี้ จึงจะมีการให้ข่าวข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน