อุตุฯ เตือนภัยพายุ”ปาข่า” ทำฝนหนักทั้งเหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้ เหตุร่องมรสุมพาดผ่าน ปภ.ประสาน 50 จังหวัดเสี่ยงรับมือ ให้ระวังท่วมฉับพลัน น้ำป่า ดินถล่ม ร้อยเอ็ดอ่วมพิษ”ปาข่า” เจอฝนหนัก 80% ของพื้นที่ อมก๋อยมีดินสไลด์ พังงา-ภูเก็ตเจอฝนหนักต่อเนื่อง

อุตุเตือนภัย”ปาข่า”ทำฝนหนัก

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภัยเรื่อง พายุ “ปาข่า” (PAKHAR) ฉบับที่ 12 ซึ่งเป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้ มีใจความว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 28 ส.ค. พายุดีเปรสชันปาข่า ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรงบริเวณประเทศจีนตอนใต้ มีศูนย์กลางเหนือประเทศเวียดนามตอนบน โดยหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย

“จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้”

ปภ.ประสาน 50 จว.เสี่ยงรับมือ

วันเดียวกัน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำ สภาวะอากาศ และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร พบว่า พายุโซนร้อนปาข่าได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และคาดว่าในวันที่ 28 ส.ค. จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณตอนเหนือของประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับ ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ในช่วงวันที่ 28 ส.ค.-2 ก.ย. มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่งในทั่วทุกภาคของประเทศ

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ปภ.จึงประสาน 50 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยแยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำกกและลุ่มแม่น้ำน่าน ซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง

ให้ระวังน้ำป่า-ดินถล่ม

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี และลพบุรี ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

และจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ ที่ลาดชันเชิงเขา บริเวณริมชายฝั่งทะเล และพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาอุทกภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนักสะสมในพื้นที่และช่วงเวลาที่มีน้ำทะเลหนุนสูง

อมก๋อยเจอดินสไลด์

สำหรับสถานการณ์น้ำหลังมีพายุและฝนตกอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ลำพูน ว่า เกิดน้ำท่วมขังไร่นา สวนพืชผัก และสวนลำไย ของเกษตรกรหลายหมู่บ้านในพื้นที่ต.เหมืองง่า อ.เมือง ต้องเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่ลำเหมืองสาธารณะต่อไป และกำลังอยู่ในช่วงสำรวจความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงใหม่ ว่า เกิดหินสไลด์ทับเส้นทางเข้าต.นาเกียน อ.อมก๋อย อบต.นาเกียน ต้องนำรถแทรกเตอร์ไถก้อนหินขนาดใหญ่ ที่สไลด์มาพร้อมดินที่ปิดเส้นทับเส้นทางออก เบื้องต้นเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถสัญจรเข้าออกได้ตามปกติแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ลำปาง ว่า หลังจากวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยแม่ตานน้อย เอ่อทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเวียงตาล ปงยางคก อ.ห้างฉัตร และพื้นที่ตำบลลำปางหลวง อ.เกาะคา ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 100 ครัวเรือน โดยในวันนี้น้ำในลำห้วยแม่ตาลน้อยได้เอ่อล้นท่วมหมู่บ้านบ้านม้าเหนือ บ้านม้าใต้ และบ้านม้ากลาง ตำบลลำปางหลวง อ.เกาะคา ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 100 ครัวเรือน เพราะระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร

ร้อยเอ็ดโดน”ปาข่า”ถล่มแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ร้อยเอ็ด ว่า ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะในตัวเมืองร้อยเอ็ด เพียง 3 ชั่วโมง วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 58.4 มิลลิเมตร ถนนทุกสาย รวมทั้งตรอก ซอกซอย ระดับน้ำสูง 30-80 ซ.ม. ถนนบางสายต้องปิดการจราจร โดยเฉพาะถนนรัฐกิจไคลคลา น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากระบบระบายน้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ระบายน้ำลงลำห้วยเหนือไม่ทัน

นายสมพงษ์ ศิริบาล ผอ.อุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดร้อยเอ็ด ลักษณะอากาศ มีฝนฟ้าคะนอง ตกหนักถึงหนักมาก ร้อยละ 80 ของพื้นที่ เนื่องจากพายุดีเปรสชัน “ปาข่า” ขอให้ประชาชนระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพิ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำชีซึ่งราษฎรจ.ร้อยเอ็ด กำลังประสบภัยน้ำท่วมอยู่แล้วหลายอำเภอน้ำจะท่วมมากขึ้น

ปทุมฯเจอน้ำเอ่อล้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ปทุมธานี ว่า หลังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ชลประทานต้องเร่งระบายน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 80 หลังคาเรือน ได้รับผล กระทบจากน้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนมอญ วัดเจดีย์ทอง ต.คลองควาย อ.สามโคก เนื่องจากชุมชนมอญนี้อยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยน้ำเอ่อล้นมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว

ที่ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ประสบสถานการณ์น้ำไหลหลาก ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.หนองรี ประชาชนต้องอพยพขึ้นที่สูงแล้ว ขณะนี้ทางอำเภอลำสนธิ และอบต.หนองรี ได้นำรถแบ๊กโฮมาขุดระบายทางน้ำบริเวณใกล้ฝายหนองรี เพื่อให้น้ำไหลสะดวกยิ่งขึ้น และขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากสำนักชลประทานที่ 10 มาติดตั้งเพื่อเร่งระบายน้ำ ขณะนี้ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติภายในไม่ช้า

พังงา-ภูเก็ตมีฝนหนักต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พังงา ว่า ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำตะกั่วป่า แม่น้ำพังงา และลำคลองสายเล็กๆ แทบทุกแห่ง ขณะที่คลื่นลมในทะเลอันดามันทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ความสูงของคลื่นประมาณ 3-4 เมตร ทำให้เรือประมงส่วนใหญ่ต้องหยุดออกหาปลา เพื่อป้องกันอันตราย ทั้งนี้จ.พังงา ยังคงมีประกาศเตือนอันตรายจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ออกไปอีกจนถึงวันที่ 29 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ภูเก็ต ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมงทำให้ จ.ภูเก็ต มีน้ำท่วมหลายจุด เช่น ถ.สุรินทร์ ซอย 2 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง มีน้ำท่วมขังสูงราว 20-30 ซ.ม. เจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ตได้ปิดกั้นสุรินทร์ซอย 2 และถนนสุรินทร์บางจุด เพื่อเร่งระบายน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำ ขณะที่ในพื้นที่อื่นๆ เช่น ที่วงเวียนห้าแยกฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง, ซอยแสนสบาย ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ก็มีน้ำท่วมผิวจราจร เฉลี่ยสูง 20-30 เซนติเมตร แต่รถยังสามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่หลังสภ.ถลาง ซึ่งเป็นบ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีรายงานว่าน้ำจากคลองเอ่อเข้าท่วมบ้านพักสูง 30-50 ซ.ม. เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันยกของขึ้นที่สูง โดยหลังฝนเริ่มทิ้งช่วงทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน