วันที่ 15 ก.ย. ที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มีความศรัทธาไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มากราบไหว้ขอพรไอ้ไข่เป็นจำนวนมาก โดยผู้ที่ประสบความสำเร็จหลังมาขอพรก็ได้นำประทัดมาจุดแก้บน ซื้อของเด็กเล่น ไก่ชนมาถวายไอ้ไข่ นอกจากนี้คนที่มาเป็นกลุ่มก็ได้นำคณะกลองยาวมารำถวายที่หน้าเจดีย์ เป็นการสร้างบรรยากาศให้มีความคึกคักเป็นอย่างมาก

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวว่า จากกรณีที่มีวัดต่างๆ ได้ออกมาบอกว่าได้มีการเชิญไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ไปอยู่ที่วัดนั้นวัดนี้ และมีการเปิดเป็นวัดสาขาไอ้ไข่ต่างๆ มากมาย อาตมาอยากจะถามว่าการที่บอกว่าเชิญไอ้ไข่ไป ใช้อะไรเชิญ ถ้าเชิญต้องเชิญไปทั้งหมด เชิญไปถึงคนที่เขาปฏิบัติมาเป็นเวลา 100-200 ปี ต้องเชิญพระพุทธรูปที่เป็นจุดกำเนิดของไอ้ไข่คือเจ้าวัด

คนที่ต้องเชิญเป็นคนแรกคือผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอิน ต้องเชิญความเป็นสมัยก็คือสมัยวัดร้าง การที่บอกว่าเชิญไอ้ไข่เชิญยังไงถ้าบอกว่าอธิฐาน คนที่มาวัดเขาก็อธิฐานกันทุกคน เชิญได้ทุกคน การที่ทำแบบนี้เพื่อเป็นประกาศให้รู้ว่าทำไอ้ไข่ขึ้นมา แต่จริงๆ ทำไม่ได้ เพราะอาตมาไม่เคยอนุญาตให้ที่ใด วัดไหน สถานที่ใด ทำหรือเอาไอ้ไข่ไปที่นั่น เพราะไอ้ไข่คือความศรัทธาของคนที่ทำให้คนเข้าวัด แล้วเราเอาพระพุทธศาสนาสอดแทรกเข้าไป

ส่วนคนที่บอกว่าเชิญไป อาตมาถามว่าเชิญไปเพื่ออะไร เพื่อหารายได้ใช่ไหม เขาไม่เรียกว่าเชิญเขาเรียกเกาะติดกระแส เหมือนนักร้องคนหนึ่งเป็นเจ้าของเพลง คนจะเชิญไปร้องทุกบ้านไม่ได้ เราก็ซื้อได้แค่แผ่นเสียงไปฟัง ก็มีแผ่นปลอมแผ่นเก๊อีกก็ว่ากันไป และช่วงนี้เรื่องของไอ้ไข่ก็เยอะมาก มีทั้งในทีวี ในโซเชี่ยล ไม่อยากให้คนตกไปเป็นเครื่องมือ ซึ่งทั้งหมดไม่เกี่ยวกับวัดเจดีย์แต่อย่างใด วัดจะทำอะไรจะมีการปรึกษาหารือมีการประกาศให้สาธารณชนรับทราบ

ต่อข้อถามท่านจะมีการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่เอาไอ้ไข่ไปแอบอ้างหรือไม่ อาจารย์แว่น กล่าวว่า อาตมาไม่คิด แต่มีบางวัดเอารูปของอาตมาไปขึ้นป้ายแล้วบอกว่าอาตมาอนุญาตแล้ว ซึ่งกรณีแบบนี้อาตมาจะเอาเรื่อง แต่จะมีการโทรไปบอกกล่าวกันก่อนให้หยุด หากไม่หยุดก็คงจะต้องว่ากันตามกระบวนการ แต่อาตมาเองก็ไม่อยากจะทำแบบนั้นเพราะไม่มีเวลา อยากให้คนที่ทำคิดให้ได้ว่าเขาอาจได้เงินทอง แต่จะทำให้ไอ้ไข่จบเร็วเหมือนกับตอนกระแสจตุคาม หากอาตมาเล่นด้วยอนุญาตให้ทำ สุดท้ายก็จะจบเหมือนจตุคาม แต่อาตมาไม่อนุญาตให้ที่อื่นทำ ส่วนกรณีที่ใดเอาวัดหรืออ้างว่าได้อนุญาต หรืออภิสิทธิ์จากวัดเจดีย์แล้ว อันนี้ต้องว่ากันตามกฎหมาย

ส่วนกรณีของบิณฑ์ และเอกพัน บันลือฤทธิ์ มาไลฟ์สดที่วัดเจดีย์แล้วบอกว่าอัญเชิญไอ้ไข่ไปด้วยนั้น จริงๆ กลุ่มนี้เขาได้มาทำพระที่วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด และได้เชิญอาตมาไปด้วยเพื่อที่จะให้อาตมาส่งมอบพระให้ แล้วเขาจะได้ถ่ายรูปเพื่อเป็นสื่อ แต่อาตมาติดกิจนิมนต์เลยไม่ได้ไป เขาก็เลยมากันที่วัดแต่ไม่เจออาตมา เขาเลยขึ้นไปในอุโบสถที่ห้ามไม่ให้ขึ้นไป ซึ่งคณะกรรมการก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง ที่เขาบอกว่าเป็นการอัญเชิญแต่จริงๆ ไม่ใช่การอัญเชิญ แต่เป็นการโปรโมท

“ซึ่งสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าเป็นอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาตมาต้องเอาผิดกับคณะกรรมการที่รับผิดชอบตรงนั้น ที่ปล่อยให้คุณบิณฑ์ กับคุณเอกพันธ์ เข้าไปทั้งที่เป็นเขตหวงห้าม ทางวัดต้องเชิญเจ้าหน้าที่ออกทั้งหมด 16 คน โดยคิดว่าจะให้พักงานก่อน 1 เดือน หากยังไม่มีแนวปฏิบัติที่จะช่วยป้องกันก็ต้องหาคนอื่นมาทำแทน ส่วนคนที่เป็นภาพในข่าวก็คิดเอาเองว่าจะปล่อยไลฟ์สดออกไปอีกหรือจะยุติ” อาจารย์แว่น กล่าว

อาจารย์แว่น กล่าวอีกว่า ทางวัดได้มีการจดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมา จดหมด วัตถุมงคลก็จด ซึ่งงานที่วัดสร้างสรรค์ขึ้นมาถือเป็นลิขสิทธิ์ของวัดอยู่แล้ว จริงๆ อาตมาไม่อยากจะเอาเรื่องกฏหมายมาดำเนินการ แต่อยากจะให้ทุกคนโดยเฉพาะคนนครฯ ช่วยกันรักษาปกป้องไอ้ไข่ไว้ให้ยืนยงคู่กับจังหวัด เพราะไม่ได้เลวร้าย แต่มันช่วยสังคมได้พอสมควร อยากให้ช่วยกันดูแลและรักษาดีกว่า อยากให้ดูยุคจตุคามหากต่างคนต่างสร้างใครก็สร้างได้ก็จบเร็ว อาตมาไม่อยากให้ไอ้ไข่เป็นอย่างนั้นอยากให้ช่วยกันรักษามากกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน