จากกรณีนายสมพร พุ่มพงษ์ อายุ 56 ปี และนางมะย่อง บัวทอง อายุ 55 ปี ชาวจ.อุทัยธานี ร้องขอความเป็นธรรม กรณีน.ส.นิศากร พุ่มพงษ์ อายุ 24 ปี หรือ น้องบุ๋ม ลูกสาวมาทำงานเสิร์ฟ อาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งในอ.หนองแค จ.สระบุรี และใช้สายโทรศัพท์ผูกคอเสียชีวิตกับลูกบิดประตูภายในบ้านหลังหนึ่งในจ.สระบุรี โดยก่อนหน้ามีชาย 4 คน 1 ใน 4 เป็นแฟนกับผู้ตาย มาร่วมรับประธานหมูกระทะกันก่อนน้องบุ๋มขึ้นชั้นสองบ้านดังกล่าว และผูกคอเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. พ่อและคุณแม่ไม่เชื่อว่าเป็นการกระทำของลูกสาว จึงร้องขอความเป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว พ่อขอรื้อคดี ลูกสาวผูกคอพบศพดับปริศนา ในบ้านเพื่อนชาย

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ก.ย. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 รุดเดินทางมาที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี และเข้าห้องประชุมลับที่สภ.หนองแค โดยมี พล.ต.ต.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงษ์วาสน์ ผกก.สภ.หนองแค นายตำตรวจที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 18 สระบุรี เข้าร่วมประชุม จนถึงเวลา 12.00 น.

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากกรณีการเสียชีวิตของน้องบุ๋ม ยังไม่ได้สรุปว่าเกิดจากการกระทำของผู้อื่นหรือฆาตกรรม ก็ได้ให้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน กำหนดให้ได้ว่า เกิดจากการทำกระทำของผู้อื่นหรือของผู้ตายเอง ส่วนผลการพิสูจน์หลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานสถาบันนิติเวชธรรมศาสตร์รังสิต ยังไม่มา

“การสอบสวนได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ยังขาดบางส่วนนิดหน่อย เชื่อได้ว่าเมื่อผลพิสูจน์ออกมาจากแพทย์แล้ว ก็สามารถส่งสำนวนได้ ส่วนกรณีผู้ชาย 4 คน อยู่ในเหตุการณ์อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้สรุปว่าชาย 4 คนนี้ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่ หรือจากผู้ตายเอง คาดว่าผลจะรู้ได้ในเร็วๆ นี้ เรื่องไม่สลับซับซ้อนอะไร” ผบช.ภ.1 กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน