รวบหนุ่มเอเย่นต์ พร้อมลูกน้อง ขนใบกระท่อม 300 กก. เข้า จ.สงขลา ค้นในบ้านเจอยาแก้ไออีก 16 ขวด พบประวัติเคยถูกจับเข้าคุกมาแล้ว
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กองร้อย อส.อำเภอบางกล่ำ ที่ 11 และตำรวจ รวมทั้งชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.บางกล่ำ นำโดย นายสุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอบางกล่ำ และ พ.ต.อ.ยศพล พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.บางกล่ำ สนธิกำลังออกลาดตระเวน และบุกเข้าจับกุมพ่อค้าใบกระท่อมรายใหญ่ภายในชุมชนเสือผ่าน พื้นที่ ม.13 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า กลุ่มผู้ค้าใบกระท่อมมีการขนพืชใบกระท่อมล็อตใหญ่เข้ามาในพื้นที่ และเตรียมจำหน่ายให้กับทั้งกลุ่มวัยรุ่น และกระจายให้ลูกค้ารายย่อย
ในระหว่างการขับรถออกลาดตระเวนอยู่ภายในชุมชนเสือผ่านนั้น พบชาย 2 ราย พยายามวิ่งหนีเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงไล่ติดตามและสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ทั้งคู่ ทราบชื่อคือ นายไพรวัลย์ พละชาติ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นเอเย่นต์ใหญ่ และนายอนุชา กามล อายุ 27 ปี ลูกน้อง ก่อนที่จะควบคุมตัวมาสอบสวน และยอมรับสารภาพ
จากนั้นผู้ต้องหาได้นำไปตรวจยึดของกลางพืชใบกระท่อมที่เพิ่งไปขนมาจาก อ.สะเดา จ.สงขลา ชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยซุกซ่อนเอาไว้ภายในรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน ธน 9977 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ด้านหลังบ้านของนายไพรวัลย์ รวมจำนวน 6 กระสอบ น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม จากการตรวจค้นภายในบ้านยังพบยาแก้ไออีก 16 ขวด รวมทั้งอุปกรณ์ผลิตน้ำต้มใบกระท่อม จึงยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวนทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันค้าใบกระท่อมจริง โดยนายไพรวัลย์ พละชาติ ซึ่งเป็นพ่อค้าและเจ้าของใบกระท่อม ให้การว่า เริ่มค้าใบกระท่อมาได้ระยะหนึ่ง โดยมีทั้งขับรถไปขนเอง และรับมาจากเอเย่นต์ใหญ่อีกทอดหนึ่งที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยรับใบกระท่อมมาในราคากิโลกรัมละ 300 บาท และนำมากระจายให้กับกลุ่มผู้เสพและลูกค้าร้ายย่อยอื่นๆ ในราคากิโลกรัมละ 350 บาท โดยรับมาครั้งละ 200-300 กิโลกรัม ส่วนลูกน้องนั้นจะให้ค่าจ้างแล้วแต่จำนวนหรือปริมาณของใบกระท่อมในล็อตนั้นๆ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย คุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกล่ำ ดำเนินคดี
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายไพรวัลย์ พละชาติ พบว่าเคยถูกจับกุมขณะกำลังขนยาแก้ไอจำนวน 3,000 ขวด ผ่านด่านตรวจถาวรบ้านควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นด่านตรวจความมั่นคงด่านแรกก่อนลงสู่จังหวัดชายแดนใต้ โดยต้องโทษจำคุกที่เรือนจำนาทวี และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ราว 4-5 เดือน ก่อนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก