คุณตาวัย80 ชาวอ.ห้วยยอด จ.ตรัง ชีวิตสุดรันทดถูกลูกที่ติดยาเสพติดจุดไฟเผาทั้งเป็น จนต้องหนีมาบวชเป็นพระแต่กลับลื่นล้มจนกลายเป็นอัมพฤกษ์ เคราะห์ซ้ำเมียก็มาตีจาก ญาติก็ไม่เลี้ยงอุ้มขึ้นรถเอาไปทิ้งที่วัด จนอาศัยห้องเก็บของข้างเมรุเป็นที่ซุกหัวนอน วอนหน่วยงานช่วยเหลือพาไปสถานสงเคราะห์
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีคุณตาวัย 80 ปี ชาวตำบลหนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มจนเป็นอัมพฤกษ์ มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ต้องอาศัยนอนข้างเมรุเผาศพในวัดเป็นที่ซุกหัวนอน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่วัดทุ่งต่อ หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายยอด หรือคุณตายอด เอี่ยมอักษร อายุ 80 ปี อยู่ภายในห้องเก็บของข้างเมรุของวัด โดยนายยอด เล่าว่า ตนมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก เนื่องจากขณะบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อปี 2559 เกิดลื่นลมจนเป็นอัมพฤกษ์ ร่างกายซีกขวาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
ส่วนลูกเมียก็ไม่มีใครมาเยี่ยม ตนมีลูกชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี แต่ต่อมากลับติดยาเสพติด และคุ้มคลั่งจุดไฟเผาตนทั้งเป็น หลังจากที่ไม่ให้เงินไปซื้อยาบ้า โชคดีที่ลูกเลี้ยงช่วยพาหนีรอดออกมาได้ และตัดสินใจมาบวชเป็นพระสงฆ์อยู่ที่วัดทุ่งต่อเมื่อปีที่แล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เนื่องจากจู่ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มลงจนป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ และจำต้องสึกออกจากวัด ทำให้ภรรยาคู่ชีวิตทนรับสภาพไม่ได้ และขอแยกทางกับตน ที่ผ่านมาทั้งลูกและเมียก็ไม่เคยมาเยี่ยมมาหาเลย
คุณตายอด กล่าวต่อว่า ส่วนบรรดาญาติๆ ก็พากันรังเกียจที่ตนเองกลายเป็นคนพิการ และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงหลอกให้ขึ้นรถสามล้อพ่วงจากบ้านเกิด แล้วพามาอาศัยอยู่ที่วัดทุ่งต่ออีกครั้ง ซึ่งเจ้าอาวาสก็เมตตาให้อยู่ในห้องเก็บของข้างเมรุ และนำอาหารมาให้วันละ 2 มื้อ เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว ตนจึงอยากไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา สถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง เพื่อจะได้มีเพื่อน และมีอาหารการกินที่ดีกว่านี้ อีกทั้งมีคนคอยดูแล และทำกายภาพบำบัดให้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาช่วยเหลือด้วย เพราะทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะเวลาขับถ่ายจะมีความลำบากมาก
