ชาวบ้านผวาหนัก ช้างป่า ทำร้ายพระสงฆ์มรณภาพ ในป่าหญ้าข้างทาง ขณะออกไปบิณฑบาต คาดเป็นตัวเดิมที่ทำร้ายชาวบ้านดับ เมื่อ 4 วันก่อน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ร.ต.อ.กฤษกร กลมภพ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ว่า มีเหตุช้างป่าทำร้ายพระสงฆ์มรณภาพ บริเวณ บ้านคลองโป่ง ม.10 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยนายพีระศักดิ์ สนั่นเครื่อง นายอำเภอแก่งหางแมว, นายอนันต์ นพเวช หน.อุทยานแห่งชาติเขา 15 ชั้น, นายเดช จินโนรส นายก อบต.ขุนซ่อง, แพทย์เวร รพ.แก่งหางแมว, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี

ที่เกิดเหตุพบเป็นถนนลูกรัง สายบ้านคลองโป่ง รอยต่อบ้านน้ำเป็น ห่างจากสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง ประมาณ 300 เมตร จากการตรวจสอบ พบศพพระประชุม ปฺนติโต อายุ 59 ปี นอนมรณภาพอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง มีบาดแผลถูกช้างป่าทำร้ายที่บริเวณศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง ใกล้กันพบบาตรพระ และฝาบาตร สภาพบุบเสียหาย ตกอยู่ในป่าหญ้า รอบศพพบรอยเท้าช้างป่าขนาดใหญ่ และรอยเลือดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

พระสุกฤษฏิ์ ปัญญาวโร เจ้าสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง และเลขาเจ้าคณะตำบลขุนซ่อง เขต 1 ให้การว่า เมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 03.00 น. พบช้างป่าตัวสูงใหญ่ เดินเข้ามาหากินบริเวณสำนักสงฆ์ ซึ่งไม่ได้เอะใจ เนื่องจากปกติจะมีช้างป่าเข้ามาหากินรอบสำนักสงฆ์บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยทำร้ายใคร จนเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พระประชุม ซึ่งเป็นพระลูกวัด เดินออกไปบิณฑบาต โดยใช้เส้นทางดังกล่าว แล้วหายตัวไปไม่ได้กลับมาที่สำนักสงฆ์

พระสุกฤษฏิ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงบอกว่า ได้ยินเสียงช้างป่าจำนวนมาก ร้องดังลั่นป่า มาจากบริเวณใกล้กับที่พบศพ จึงเอะใจและออกตามหา จนมาพบว่า พระประชุมถูกช้างป่าทำร้ายมรณภาพแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นช้างตัวเดียวกันกับที่พบที่สำนักสงฆ์

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมนายอำเภอแก่งหางแมว หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณจุดที่พระประชุมถูกช้างป่าทำร้าย จากนั้นได้เดินทางไปเป็นประธานสรงน้ำศพพระประชุม ณ ศาลาสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง โดยมีพระสงฆ์ ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมในพิธีด้วยความเศร้าสลด








Advertisement

ด้านนายสมบัติ ธรรมโชติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ได้ทำการตรวจสอบและติดตามข้อมูล ทราบว่าช้างป่าตัวดังกล่าว น่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ทำร้ายนายบุญเชิด ทรัพย์สวัสดิ์ อายุ 61 ปี จนเสียชีวิต เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา เนื่องจากวัดรอยเท้าแล้วพบว่า มีขนาดวงรอบ 30 เซนติเมตรเท่ากัน และตัวสูงใหญ่ 2 เมตรกว่า น้ำหนักประมาณ 5 ตัน ไม่มีอาการตกมัน แต่อาจจะด้วยอุปนิสัยดุร้าย เนื่องจากเป็นช้างป่าแตกออกจากฝูง

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่ หากไม่มีความจำเป็นอย่าออกจากบ้านในช่วงเวลากลางคืน หรือช่วงเช้ามืด อาจจะถูกช้างป่าทำร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งผลักดันช้างป่าให้กลับขึ้นเขาโดยเร็ว และหากพบเห็นช้างป่า อย่ากระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่เกิดเสียงดัง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือผู้นำชุมชนทราบทันที เพื่อเร่งผลักดันให้ออกห่างจากชุมชนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน