นักร่อนทอง ฟันธง คลองชลประทานในพื้นที่ จ.ราชบุรี มีทองอยู่จริง หลังครูหนุ่มพบ ทองนพคุณ ด้าน ชาวบ้านแห่ลงพื้นที่ เจอทั้งสร้อย-แหวนทอง
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
จากกรณี นายกรภัทร พรของแม่ หรือบี อายุ 33 ปี ครูสอนพิเศษ และพ่อค้าขายของในตลาดนัดที่ราชบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้ไม่สามารถสอนหนังสือตามบ้านได้ จึงออกหาปลาตามคลองชลประทาน หลังสนามกอล์ฟ ม.9 ต.คูบัว ติดกับต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ทว่าได้ร่อนเจอเศษทองคำ 1 ชิ้น และจี้ทองคำรูปกระต่าย 1 ชิ้น ซึ่งพิสูจน์ภายหลังพบว่าเป็นทองนพคุณ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 25 ม.ค.2564 นายธงชัย วรรณวิจิตร อายุ 65 ปี ชาวโคราช กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากสื่อที่นำเสนอว่ามีการร่อนพบทองคำภายในคลองชลประทาน ที่จ.ราชบุรี จึงชวนเพื่อนขับรถออกมาจากบ้านทันที ซึ่งตนมีประสบการณ์ในการร่อนทองคำ เพราะทำมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2540 และมีความเชี่ยวชาญสามารถบอกได้ว่าที่ดังกล่าวมีทองคำจริงหรือไม่
นายธงชัย กล่าวต่อว่า สำหรับทองคำที่นายกรภัทรร่อนเจอนั้น จากประสบการณ์ของตน ทองคำที่พบนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์จริง เป็นทองคำที่เกาะมาจากในหินที่เรียกกันว่า หินควอตซ์ จากเท่าที่เดินสำรวจดู มีหินควอตซ์ หินสีขาว และ หินควอตซ์เนื้อราวา อยู่จำนวนมาก แต่จะตอบได้ว่ามีทองคำอยู่จำนวนเท่าไหร่นั้น ตนยังตอบไม่ได้ เพราะต้องนำมาป่นและตรวจสอบดู
- ฮือฮา ครูโชว์ ทองนพคุณ ร่อนได้ในคลองชลประทาน ราคาสูงกว่าทองปกติ
- ชาวบ้านแห่ร่อนทอง หลังครูหนุ่มเจอทองคำแท้ นายกอบต.เตือนอย่าหลงเชื่อ
- เริ่มวันนี้! ‘คนละครึ่ง’ 1.34 ล้านสิทธิ์ สแกนใช้ ‘เป๋าตัง’ ได้แล้ว รีบเลย
นายธงชัย กล่าวอีกว่า หากมีเป็นก้อนเล็ก ๆ ต้องใช้หินจำนวนมากมาป่นรวมกันและนำมาร่อน พร้อมใช้น้ำยาตรวจสอบดู หากพบก้อนใหญ่ ก็จะหาได้ง่าย ตัวอย่างจากที่พบ “เป็นก้อนเล็ก หินก้อนนี้ ดูคร่าว ๆ แล้วพบว่ามี แต่อาจจะมองด้วยสายตาเปล่าไม่เห็นเพราะเล็กมาก ต้องใช้กล้องส่องจึงจะเห็น”
“หากประชาชนที่ลงหาร่อนทอง สงสัยว่าก้อนหรือชิ้นส่วนที่พบนั้นเป็นทองคำจริงหรือไม่ ให้นำปลอดที่มีน้ำตะกั่ว ทุบปลายปลอดให้แตก จากนั้นเทน้ำปลอดลงในเศษชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นทอง หากเป็นทองคำแท้ น้ำปลอดจะจับรวมตัวกันเป็นก้อน และเมื่อนำไปต้มด้วยความร้อน เมื่อน้ำปลอดละลาย ก้อนทองก็จะหลุดออกตามออกมา แต่จากการที่มีชาวบ้านนำเศษชิ้นส่วนที่ร่อนจากน้ำมาให้ดูนั้น พบว่าไม่ใช่ทองคำแท้ เป็นทองคนโง่ คือ แร่ที่มีสีเหมือนทองคำ หรือ มีชื่อเรียกว่า แร่ไพไรต์ (Pyrite) ซึ่งไม่ใช่ทองคำ แต่มีลักษณะเป็นสีทองจนทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจผิดบ่อย ๆ คิดว่าคือ ทองคำ จึงมีฉายาว่า ทองคนโง่ ตรงนี้ต้องเตือนให้ระวังหากมีการนำไปหลอกขายต่อกัน” นายธงชัย กล่าว
นายธงชัย กล่าวว่า เช้านี้ตนกับเพื่อนจะวางแผนลงไปร่อนหาทองคำ เพื่อพิสูจน์ดูว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ หรือจะมีทองคำอยู่ประมาณเท่าไหร่ วันนี้ได้เตรียมอุปกรณ์ในการร่อนและน้ำยาตรวจสอบเพื่อที่จะดูว่ามีทองคำประมาณเท่าไหร่ แต่มั่นใจได้ว่ามีอยู่จริงแน่นอน หากพบหินควอตซ์จำนวนมากอาจจะเป็นจุดเกิดในหินแบบปฐมภูมิ และการเกิดในดิน/ทราย แบบทุติยภูมิ ได้ จะเป็นแหล่งที่มีหินทองคำอีก 1 แห่งของประเทศ
ด้าน นายพิบูลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวนครปฐม กล่าว่า ตนได้นำเครื่องจับวัตถุโลหะลงไปหาสิ่งของที่อยู่ภายในน้ำตามข่าวที่ปรากฏ จากการที่ตนลงไป เจอแหวนทองซึ่งมีวัตถุที่คล้ายเพชร หรือ อาจจะเป็นเม็ดพลอยที่ติดกับแหวนทองคำ พร้อมเหรียญ 10 และทุ่นตะกั่ว หลังจากนี้จะนำไปที่ร้านทองเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นแหวนทองคำจริงหรือไม่ และมีน้ำหนักราคาของแหวนกี่บาท ซึ่งถือว่าตนมาไม่เสียเที่ยว ได้สิ่งของติดมือกลับบ้าน เพราะถ้าหากเป็นทองคำจริงก็น่าจะมีราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท
ขณะที่ นายคำรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเกิดที่นี่ อยู่มาถึงทุกวันนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจุดดังกล่าวมีทองอยู่ แต่จากเรื่องเล่าของพ่อแม่ คลองแห่งนี้เป็นคลองใหญ่มีความกว้างมาก เป็นคลองที่ต่อมาจากแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก ตรงนี้เป็นคลองที่ไหลผ่าน ต.บ้านไร่ ต.ดอนตะโก ต.คูบัว ต.อ่างทอง และ ต.ดอนแร่ ซึ่งจะมีน้ำจากเขื่อนไม้เต็งไหลลงมาสมทบด้วย
“แต่ก่อนคลองแห่งนี้จะเป็นเส้นทางเดินเรือ โดยจุดที่ห่างจากนี้ไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นที่จอดเทียบเรือขนส่งค้าขาย แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะกลายเป็นที่นา โดยที่ชาวบ้านต่างก็ซื้อที่ทำนากัน มีการถมคลอง ทำถนน จนคลองสายนี้แคบลง แต่ก่อนจะตื้นเขินมาก แต่ทางจังหวัดได้นำรถแบ็คโฮมาขุดลอกเพื่อให้น้ำไหลสะดวก เพราะคลองแห่งนี้ไม่ได้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมแล้ว เนื่องจากถนนตัดผ่านและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ประกอบกับถนนสายนี้เปลี่ยว กลางดึกมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีการดักจี้ปล้นชิงทรัพย์ และตรงจุดที่มีการพบทอง สร้อยทอง หรือ แหวน ก็จะมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์เสียหลักหลุดโค้งลงมาในคลองหลายราย” นายคำรณ กล่าว