เจ้าตูบน้อยบุญหนา ติดใต้ท้องรถจากกว่า 50 กิโล จากแก่งกระจานมาเจอที่เพชรบุรี เจ้าของใหม่พากลับนนทบุรี เชื่อมีบุญรอดตายจนได้พบกัน คนส่องทะเบียนเสี่ยงโชค

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Boonnum Num” ซึ่งได้โพสต์ภาพ การช่วยเหลือหมาน้อยตัวหนึ่ง ที่ติดเข้าไปในใต้ท้องรถโดยที่ไม่รู้ตัว พร้อมข้อความว่า “เมื่อได้เลี้ยงหมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ!!! ลูกหมาติดใต้ท้องรถ ลากมาไกลกว่า 50 กิโล.! โชคดีที่แวะจอดร้านกาแฟ…โชคดีที่มีคนเห็น…โชคดีที่ไม่หล่นลงระหว่างทาง…หมาน้อยชื่อ ด.ญ.โชคดี นามสกุล ที่ไม่ตาย มาน้อยเดินทางไกล แก่งกระจาน-บางบัวทอง”

ล่าสุดวันที่ 3 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ นายบุญนำ จำเริญพงษ์รัศมี อายุ 40 ปี ผู้โพสต์ดังกล่าว ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย นายบุญนำ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาและลูกสาวได้เดินทางไปเที่ยวสวนมะนาวของเพื่อนที่บ้านน้ำซับ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยเที่ยวพักผ่อนอยู่ประมาณ 2 วัน

จากนั้นวันที่ 31 ม.ค.จึงเดินทางกลับบ้านด้วยรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1ฒว 8188 กทม. ในช่วงเช้าสายๆ โดยระหว่างที่ขับรถออกมา ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีเสียงร้องหรือเสียงใดๆ กระทั่งขับรถมาถึงร้านกาแฟร้อยปี ก่อนถึงตัวเมืองเพชรบุรี ตนได้แวะซื้อกาแฟ ปรากฏว่า รปภ.ที่ลานจอดรถเดินมาบอกกับตนที่รถว่า ตนขับรถไปชนอะไรมา มีซากขาห้อยติดมาด้วย ด้วยความตกใจและสงสัยจึงรีบวิ่งลงไปดู

นายบุญนำ เล่าต่อว่า เมื่อไปก้มดูในห้องเครื่องหน้ารถ ก็พบกับขาคู่หลังของลูกสุนัขห้อยขาลงใต้คานแท่งเครื่อง โดยที่ขาไม่ถึงพื้น ภรรยาจึงรีบมุดเข้าไปใต้ท้องรถและช่วยลูกสุนัขออกมา เป็นเพศเมีย อายุประมาณ 2 เดือน ตอนแรกคิดว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เมื่อเข้าไปช่วยก็กระดิกหางออกมาด้วยความดีใจ แต่มีอาการอิดโรย ลิ้นห้อย ภรรยาจึงรีบนำน้ำมาให้กิน ลูกสุนัขก็รีบกินด้วยความกระหาย

เมื่อสำรวจดูตามตัวก็พบว่า ที่ใต้ท้องมีบาดแผลจากรอยเสียดสีหลายจุด แต่อาการไม่หนัก ตนกับภรรยาจึงนำลูกสุนัขกลับมาด้วย เพราะไม่รู้ว่าติดมาใต้ท้องรถเมื่อไร จุดไหน หากจะต้องย้อนกลับไปที่บ้านน้ำซับอีก ระยะทางก็ไกลพอสมควร

หลังจากนำลูกสุนัขตัวดังกล่าวกลับมาถึงบ้านแล้ว วันต่อมาภรรยาก็พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งหมอตรวจดูแล้วไม่พบว่าได้รับบาดเจ็บในส่วนใดอีก นอกจากแผลเสียดสีที่ใต้ท้อง 3-4 จุดเท่านั้น หมอก็ทำแผลและฉีดยาให้ จากนั้นครอบครัวตนก็มาปรึกษากันว่าจะเลี้ยงดูลูกสุนัขตัวนี้ เป็นสมาชิกของบ้าน เพราะถือว่าคงมีบุญเกื้อหนุนกันมา ทำให้รอดตายและได้มาอยู่ด้วยกัน

จึงตั้งชื่อให้ลูกสุนัขตัวนี้ว่า “เจ้าโชคดี” นามสกุล “ที่ไม่ตาย” ซึ่งกลายเป็นสุนัขตัวโปรดที่ลูกสาวตนชื่นชอบไปแล้ว หลังจากที่ตนนำเรื่อวราวนี้ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีคนเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับจะขอเจ้าโชคดีไปเลี้ยงต่อ แต่ลูกสาวตนคงไม่ยอมแน่ๆ เพราะเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวไปแล้ว ส่วนบรรดาสายเสี่ยงโชคที่จะนำเลขทะเบียนรถตนไปเสี่ยงโชคนั้น ตนก็คงห้ามไม่ได้แต่อยากจะบอกว่า ตั้งแต่ตามมา ตนยังไม่เคยถูกสักงวดเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน