ไม่รอดสายตา จับยาล็อตใหญ่ 2 คดี ขนมากับสิบล้อ พบของกลาง เฮโรอีนครึ่งตัน มากที่สุดนับตั้งแต่มีการจับกุม อีกคดี ยาบ้า 8 ล้านเม็ด
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 16ก.พ.2564 ที่บก.สส.ภ.5 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 นายสมหวัง พ่วงบางโพธิ์ รองผวจ.แพร่ นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 และผู้แทนทภ.3 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี ในพื้นที่ จ.แพร่ จับกุมเฮโรอีนจำนวน 1,400 แท่ง น้ำหนักประมาณ 551 กิโลกรัม ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการจับกุม และจับยาบ้า 8 ล้านเม็ด
คดีแรกเจ้าหน้าที่จับกุม นายปรีดา สงวนหงส์ อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง เฮโรอีน 1,400 แท่ง น้ำหนักประมาณ 551 กก. รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน 70 9612 นครราชสีมา และโทรศัพท์มือถือ โดยการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2564 ตำรวจ บก.สส.ภ.5 ได้รับการประสานจาก บก.สส.ภ.2 ว่า มีกลุ่มลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ จ.ตราด จะใช้รถ 10 ล้อ ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ ภ.5 เพื่อลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
พล.ต.ท.ประจวบ จึงสั่งการให้ บก.สส.ภ.5 ทำการสืบสวนติดตามจับกุม โดยการบูรณาการร่วมกันทำงานระหว่าง ภ.5, ภ.2 และ บช.ปส. ในการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2564 เวลา16.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบ รถบรรทุก10 ล้อ คันดังกล่าว จอดอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง ต.หย่วน อ.เชียงคำ จว.พะเยา จึงได้สะกดรอยสืบสวนติดตาม กระทั่งพบนายปรีดา ขับรถบรรทุก 10 ล้อ วนอยู่ในพื้นที่ อ.เชียงคำ, อ.จุน, อ.ดอกคำใต้ และ อ.ปง แล้วเข้าพักตามปั๊มน้ำมัน หรือจอดรถข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้สะกดตามอย่างต่อเนื่อง
และวันที่ 13 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 21.50 น. รถบรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าว ได้ขับออกจากปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.หย่วน อ.เชียง และขับมุ่งหน้าไปยัง ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จว.พะเยา ซึ่งเป็นหมู่บ้านกลุ่มคนชนเผ่าม้ง ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเชื่อว่ารถ10ล้อจะไปรับยาเสพติด จึงจัดกำลังเฝ้ารอบริเวณเส้นทางในพื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา
จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. พบรถ10 ล้อ คันดังกล่าว ขับลงมาจากหมู่บ้าน ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ ผ่าน ทางแยก รพ.เชียงคำ มุ่งหน้าไปอ.จุน จึงได้สะกดรอยติดตามซึ่งใช้เส้นทางผ่าน อ.จุน, อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ผ่าน อ.งาว จ.ลำปาง เข้าสู่ พื้นที่ อ.สอง จ.แพร่ ต่อมาในวันที่ 14 ก.พ.2564 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้นรถ10 ล้อคันดังกล่าว ที่ด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่
ก่อนพบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะบรรทุก โดยมีตะกร้ามะม่วงวางทับอยู่ จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมสืบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายนี้ เพื่อติดตาม จับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
คดีที่2 เจ้าหน้าที่จับกุม นายวุฒิชัย นวลเกตุ อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้า ประมาณ 8,000,000 เม็ด รถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน70-1966 ชัยภูมิ โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง โดยการจับกุมดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ ประจำด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ ปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ กระทั่งเวลาประมาณ 04.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่คัดกรองรถประจำด่านตรวจ ได้เรียกตรวจรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ คันดังกล่าว
โดยมี นายวุฒิชัย เป็นผู้ขับขี่ โดยอ้างกับตำรวจว่า ได้บรรทุกถ่านไม้ จะเดินทางไปจ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ได้นำรถเข้าจุดตรวจค้นโดยใช้เหล็กแหลมเสียบเข้าไปในกระสอบถ่านไม้ ปรากฎว่าสามารถแทงทะลุผ่านกระสอบได้โดยง่ายจึงตรวจสอบโดยละเอียด ก่อนพบเป็นยาบ้า 40 กระสอบ รวมทั้งหมด 8,000,000 เม็ด
จากการสอบถามเบื้องต้น นายวุฒิชัย ให้การว่า นายฉลวยศักดิ์ และ นายกฤษณะ เดินทางโดยรถกระบะ โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียนผข 8378 เพชรบูรณ์ มารับตนเอง เพื่อให้ร่วมเดินทางไปซื้อรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ โดยให้ช่วยดูรถและขับรถด้วย นายฉลวยศักดิ์ และ นายกฤษณะ ได้ขับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อก่อนในช่วงแรก
แต่พอมาถึงบริเวณสามแยกซึ่งไม่ทราบว่าเป็นจุดใดแน่ชัด ทั้ง 2 คน ได้สลับให้นายวุฒิชัย มาขับรถ10 ล้อแทน จนกระทั้งขับมาถึงด่านตรวจห้วยไร่ และถูกจับกุมในที่สุด เบื้องจ้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ ในครั้งนี้ทั้ง 2 คดี ถือว่ามีจำนวนมาก โดยเฉพาะเฮโรอีนที่มีจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการจับกุมมา และมีการปรับเปลี่ยนวิธีการในการตบตาเจ้าหน้าที่ ด้วยการซุกซ่อนในรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกถ่านและผลไม้ อย่างไรก็ตามไม่รอดพ้นสายตาและการสกัดกั้นที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นคาดว่า น่าจะลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านด้านอ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งแม้จะมีการปิดกั้นแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
แต่ยอมรับว่า มีบางส่วนที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อาจรอดพ้น สายตา และการสกัดกั้น ของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเข้มงวดต่อเนื่องได้เช่นกัน โดยเฮโรอีน ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ คาดว่า เป็นเพียงการลำเลียงผ่าน ประเทศไทยเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป
อ่าน : 191 สกัดยานรกล็อตใหญ่ 4 ล้านเม็ด ก่อนส่งลงใต้ให้ “อ้วน เซียงตึ๊ง”
