แพทย์เตือนกินน้ำตาลมาก เสี่ยงมะเร็งตับ และอีกสารพัดโรค จี้ขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทุก 2 ปีตามกำหนด ลดปัญหาคนป่วย กระตุ้นอุตสาหกรรมปรับสูตรลดหวาน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2564 พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า น้ำตาลมีส่วนทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น มะเร็งตับ ไขมันเกาะตับ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ไขมันอุดตันในหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต เบาหวาน และโรคอ้วน เพราะน้ำตาลที่ค้างในร่างกายจะแปรสภาพเป็นไขมันเกาะตามกล้ามเนื้อและตับ ทำให้อ้วนลงพุง หากปล่อยไว้นานจะทำให้อวัยวะต่างๆ อักเสบเรื้อรัง

พญ.วรรณี นิธิยานันท์

ปัจจุบันการเสียชีวิตของคนไทยร้อยละ 70 มาจากกลุ่มโรค NCDs รัฐบาลต้องใช้งบประมาณดูแลผู้ป่วย 4-5 แสนล้านบาทต่อปี จึงเป็นที่มาของการผลักดันให้ปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทุก 2 ปี ให้ได้ตามเกณฑ์แนะนำที่ 6% ในปี 2566 จากการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560

“อีกไม่กี่เดือนจะถึงเวลาต้องปรับภาษีเพิ่มอีก เสนอให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ควรชะลอ เพราะหากควบคุมปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มได้จะช่วยลดปัญหาคนป่วยได้ส่วนหนึ่ง และที่ผ่านมาได้ให้เวลาผู้ประกอบการเครื่องดื่มปรับสูตรลดน้ำตาลในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์มา 4 ปีแล้ว การเดินหน้าเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มปรับตัว เพราะถ้าลดปริมาณน้ำตาลที่ผสมในเครื่องดื่มลงได้ก็จะไม่ต้องเสียภาษีมาก คนไทยก็จะได้บริโภคเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลง” พญ.วรรณีกล่าว

ด้าน ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน รักษาการผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวว่า จากการศึกษาการดื่มเฉลี่ยต่อวันในเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลที่ของกลุ่มประชากรไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลลดลงจาก 283.6 มิลลิลิตร ในปี 2561 เป็น 275.8 มิลลิลิตรในปี 2562 หรือลดลง 2.8% โดยกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป บริโภคลดลงสูงสุด 7.2% ขณะที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า ปี 2551-2560 คนไทยบริโภคน้ำตาลจากเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น แต่หลังบังคับใช้ภาษี คนไทยบริโภคน้ำตาลจากเครื่องดื่มลดลง 15.3% ในปี 2561 และ 14% ในปี 2562

ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม

ส่วน นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โรคที่เกิดขึ้นกับคนไทย 2 ใน 3 มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมทางสังคม โดยเฉพาะพฤติกรรมการกินน้ำตาลมากกว่า 6 ช้อนชาต่อวัน เสี่ยงเป็นโรค NCDs ซึ่งร้ายแรงกว่าโควิด 19 กว่า 5 เท่า เพราะพบคนไทยเสียชีวิตจากโรค NCDs เฉลี่ยวันละ 1,000 คน

นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม

ดร.แดเนียล เคอร์เทซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล มีส่วนสำคัญทำให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน และโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น ฟันผุ มาตรการทางภาษีช่วยลดการบริโภคสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลได้ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ปรับอัตราภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเพิ่มแบบขั้นบันได จึงขอให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีตามที่กำหนดไว้ เพราะการลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลจะช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง การปรับเพิ่มอัตราภาษียังสะท้อนชัดไปถึงประชาชนว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ

ดร.แดเนียล เคอร์เทซ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน