ผกก.สภ.หนองเรือ ตั้งกรรมการสอบปม ‘นายโอ๋’ หนีจากโรงพักทั้งกุญแจมือ หลังบุก ขืนใจยายขาขาด คาสำนักสงฆ์ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ด้าน เจ้าสำนักฯ คืนเกิดเหตุ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณี นายอัจฉริยะ สีทา หรือ นายโอ๋ อายุ 24 ปี ก่อเหตุข่มขืน นางเอ (นามสมมติ) อายุ 79 ปี ชาวจ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้พิการขาขวาขาด ขณะนอนพักผ่อนอยู่ในห้องพักของสวนปฏิบัติธรรม เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้ แต่สามารถเดินหนีออกจาก สภ.หนองเรือ และหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ตั้งกรรมการสอบปม 'นายโอ๋' หนีจากโรงพักทั้งกุญแจมือ หลังบุก ขืนใจยายขาขาด คาสำนักสงฆ์ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น

ตั้งกรรมการสอบปม ‘นายโอ๋’ หนีจากโรงพักทั้งกุญแจมือ หลังบุก ขืนใจยายขาขาด คาสำนักสงฆ์ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 มี.ค.2564 ที่สวนปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยพบว่า ภายในสวนปฏิบัติธรรมนั้น มีการแบ่งพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน โดยพระที่เป็นเจ้าสำนักสวนปฏิบัติธรรม ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกระท่อมขนาดกว้าง 4X4 เมตร สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร กระท่อมหลังดังกล่าว มีเหล็กดัด และผ้าล้อมรอบไว้อย่างดี ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของสวนฏิบัติธรรม ภายในกระท่อมมีที่นอน พัดลม และเครื่องครัว หม้อหุงข้าว กระทะ วางไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนผู้เสียหายทราบว่า ลูกสาวรับกลับบ้านแล้ว

เจ้าสำนักฯ กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายเป็นโยมที่ชอบมาปฏิบัติธรรมที่สวนปฏิบัติธรรมหลายปีแล้ว เป็นผู้พิการขาขวาขาด และได้ตัดสินใจบวชเพื่อปฏิบัติธรรม ลูกหลานจึงสร้างกระท่อมแบบง่าย ๆ ให้พัก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา กระทั่งมีคนร้ายซึ่งเป็นลูกจ้างของชาวสวนที่มาปลูกพืชที่เชิงเขาภูเม็ง มาพักอาศัยอยู่ไม่ห่างจากสวนปฏิบัติธรรมมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

เจ้าสำนักฯ กล่าวต่อว่า โดยเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงตีหม้อจากกระท่อมของผู้เสียหาย พระสงฆ์ในวัด รวม 4 รูป จึงตื่นและมาที่กระท่อม จึงทราบว่า มีคนร้ายปีนกระท่อมเข้าไปข่มขืนผู้เสียหาย แล้วเอาลูกกุญแจไปและล็อกกุญแจจากด้านนอก ไม่ให้ผู้เสียหายออกมาจากกระท่อมได้

“เมื่อทราบรายละเอียด จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ จากนั้นมีการแจ้งตำรวจและแจ้งให้ลูกหลานของผู้เสียหายเอากุญแจสำรองมาเปิดช่วยเหลือออกจากกระท่อม และไปแจ้งความที่ สภ.หนองเรือ และในช่วงสายของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควบคุมตัวคนร้ายได้ เอาตัวมาชี้จุดที่ก่อเหตุ ซึ่งเห็นคนร้ายชี้จุดที่ปีนเข้าไปในกระท่อม คนร้ายใช้เท้าเหยียบเหล็กดัดปีนขึ้นไปใต้ชายคา เข้าไปด้านใน จากนั้นทำการข่มขืนผู้เสียหายแล้วหลบหนีไปพร้อมลูกกุญแจ” เจ้าสำนักฯ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้หลังเกิดเหตุจริง ซึ่งขณะถูกควบคุมตัวนั้น ผู้ต้องหาได้พาไปชี้จุดที่ตัวเองก่อเหตุจริง แต่เมื่อถึง สภ.หนองเรือ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ นายโอ๋ ให้การปฏิเสธ ดังนั้น ในขั้นตอนของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากสอบสวนแล้ว ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ก็ต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากแพทย์ รวมถึงการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเก็บหลักฐาน

พ.ต.อ.ภพกร กล่าวต่อว่า จากนั้น จึงจะมีการขอศาลจังหวัดชุมแพ ออกหมายจับนายโอ๋ เพราะกรณีดังกล่าวไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายโอ๋ในข้อหาข่มขืนได้ แต่ลักษณะและพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าเสพยาเสพติด จึงตรวจปัสสาวะและพบปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงจับกุมนายโอ๋ ในข้อหาเสพยาเสพติดและคุมขังไว้ที่ห้องควบคุม สภ.หนองเรือ แลขณะที่พนักงานสอบสวนเบิกตัวออกจากห้องควบคุมเพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติมในคดีเสพยาเสพติดและคดีข่มขืน นายโอ๋ก็หลบหนีไป

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนของพนักงานสอบสวนที่เบิกตัวผู้ต้องหา และสิบเวรยามด้วย เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงกับกรณที่นายโอ๋หลบหนีไปในครั้งนี้ ซึ่งในเบื้องต้นทั้งพนักงานสอบสวน และสิบเวรยามต้องทำการติดตามตัวนายโอ๋ กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกข้อหาภายใน 30 วัน หากไม่สามารถดำเนินการได้จะมีการพิจารณาโทษทางวินัย ตามขั้นตอนต่อไป” พ.ต.อ.ภพกร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน