นายโอ๋ เปิดปากสารภาพ ขืนใจยายพิการ แฉเส้นทางหนี เหลือเงินติดตัว 4 บาท หวิจนหลับ ตื่นมาโดนตำรวจจับ ตร.นครปฐมขอดีเอ็นเอ สงสัยขืนใจคนชรา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณี นายอัจฉริยะ สีทา หรือ นายโอ๋ อายุ 24 ปี ก่อเหตุข่มขืน นางเอ (นามสมมติ) อายุ 79 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้พิการขาขวาขาด ขณะนอนพักผ่อนอยู่ในห้องพักของสวนปฏิบัติธรรม วัดป่าบ้านหนองโน ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนถูกจับกุมตัว แลต่หลบหนีออกจากโรงพักหนองเรือไปได้ กระทั่งจนมุมอีกครั้งใกล้สำนักสงฆ์วัดป่าบ้านหนองโน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดช่วงค่ำวันที่ 16 มี.ค.64 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 กล่าวว่า หลังถูกจับกุมและนำตัวมาสอบสวน นายอัจฉริยะ ให้การรับสารภาพว่า ได้ข่มขืนยายวัย 79 ปี ที่นอนในกระท่อมภายในสวนปฏิบัติธรรมจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราและเสพยาบ้ามา 2 เม็ด ทำให้มีอารมณ์ จึงก่อเหตุดังกล่าว

ในขณะเดียวกันผู้ต้องหายังให้การอีกว่า การหลบหนีครั้งนี้ อาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ จึงเร่งรีบเดินและวิ่งหนีไปขณะที่ยังสวมใส่กุญแจมือ จากนั้นได้ขโมยเอารถจยย.ของชาวบ้านที่เสียบกุญแจ จอดไว้ริมถนนขี่หนีไปหาเพื่อนที่ไร่อ้อย อยู่กับเพื่อนจนค่ำ จึงขี่รถจยย.ตระเวนไปตามที่ต่างๆ ในพื้นที่ เพราะทราบข่าวจากชาวบ้านว่าตำรวจตามจับกุมตัวอยู่

จากนั้นได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านน้าในสวนกระชาย โดยหาเงินในบ้านได้เพียง 12 บาท แล้วไปซื้อยาเส้นที่ร้านค้าในหมู่บ้าน จำนวน 8 บาท เหลือเงินติดตัว 4 บาท ขณะซื้อยาเส้นชาวบ้านจำได้ จึงรีบขี่รถจยย.หนี มาหลบที่กระท่อมในไร่อ้อย เพื่อหาข้าวกินแต่ไม่มี และหิวจนหลับ ตื่นขึ้นมากำลังจะขี่รถไปหาขอข้าวชาวบ้านกินจึงถูกตำรวจจับกุมตัวได้

พล.ต.ต.ณัฐนนท์ กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดชุมแพแล้ว จำนวน 2 หมายจับ คือหมายจับที่ จ.21/2564 ลงวันที่ 16 มี.ค.64 ในข้อหา ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และหมายจับที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 16 มี.ค.64 ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิไช่ภรรยาตน ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้น หลังการสอบสวนก็จะแจ้งเพิ่มเติมต่อไป

นอกจากนั้นยังได้รับการประสานจาก ตำรวจภูธรนครปฐม ให้ทำการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหา เพื่อเปรียบเทียบกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนฆ่าผู้สูงอายุในพื้นที่ด้วย ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้น นายอัจฉริยะ ปฏิเสธว่าไม่เคยก่อเหตุในพื้นที่ บช.ภ.7 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เก็บดีเอ็นเอเพื่อส่งตรวจแล้วเช่นกัน

ขณะที่ พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ กล่าวถึงการที่ผู้ต้องหาให้การว่าหนีได้เพราะตำรวจเผลอนั้น ในส่วนนี้จะได้มีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่สิบเวร ให้ตำรวจที่มีความเข้มแข็ง ร่างกายคล่องแคล่วมาปฏิบัติหน้าที่ในจุดดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน