แม่ค้าคนกลางรุดไกล่เกลี่ยเกษตรกรปลูกดาวเรือง หลังแจ้งความถูกเบี้ยวเงิน ยันไม่ได้โกงแต่สื่อสารไม่เข้าใจกัน ยอมจ่ายค่าดาวเรือง แลกถอนแจ้งความ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

กรณีเกษตรกรผู้ปลูกดอกดาวเรืองในอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ 6 ราย ออกมาร้องขอความช่วยเหลือและแจ้งความเอาผิดกับแม่ค้าคนกลางชาว จ.กำแพงเพชร โดยอ้างว่าถูกหลอกซื้อขายดอกดาวเรืองประมาณ 1 แสนดอก โดยทำสัญญาซื้อขายไว้เป็นหลักฐานระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายด้วย แต่พอเกษตรกรรวบรวมดอกดาวเรืองขนส่งไปให้เรียบร้อย 3 รอบ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้รับเงิน ได้เพียงค่าขนส่งเท่านั้น พอโทรไปก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าขายยังไม่ได้บ้าง ดอกผิดไซซ์บ้าง กระทั่งปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ภานิชา เขียนสอาด แม่ค้าคนกลางชาว จ.กำแพงเพชร ที่ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าเบี้ยวเงินค่าดาวเรือง พร้อมด้วย น.ส.ภัทราภรณ์ ค้ำคูณ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกดาวเรือง ซึ่งเป็นคนที่ทำสัญญากับแม่ค้าคนกลางรายดังกล่าว และรวบรวมดอกดาวเรืองจากลูกสวน ก็เดินทางมาพบ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เจ้าของคดี เพื่อไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น

น.ส.ภานิชา แม่ค้าคนกลาง ชี้แจงว่า ตนไม่ได้มีเจตนาจะโกงหรือเบี้ยวเงินเกษตรกร ตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน เพราะตนเองแจ้งว่าอยากให้ดาวเรืองไซซ์ใหญ่ แต่พอตัวแทนเกษตรกรส่งดอกดาวเรืองไปให้กลับไม่ตรงกับไซซ์ที่ตกลงกัน และดอกดาวเรืองบางส่วนก็ช้ำ ทำให้ไม่สามารถขายต่อได้ ซึ่งตนเองก็พยายามอธิบายให้น.ส.ภัทราภรณ์ ฟังแล้ว แต่ก็คุยกันไม่เข้าใจ ตนจึงไม่คุยด้วย จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าตนเองเบี้ยวเงินค่าดาวเรือง จนไปร้องสื่อและแจ้งความ

ขณะที่ น.ส.ภัทราภรณ์ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกดาวเรืองที่เป็นคนทำสัญญา บอกว่า หลังจากรวบรวมดอกดาวเรืองส่งไปให้แม่ค้าคนกลางรายดังกล่าวตามออเดอร์แล้ว ซึ่งก็เข้าใจว่าบางส่วนไม่ตรงตามไซซ์ที่ต้องการ แต่มีการรับของและทราบว่าบางส่วนตีบิลตามขนาดไซซ์แล้ว แต่กลับไม่ได้เงินสักที ซึ่งตนก็ถูกลูกสวนทวงถามมา จึงโทรไปสอบถามแม่ค้าคนกลางรายดังกล่าวก็บอกว่าขายไม่ได้ บอกว่าขนาดไม่ตรงตามไซซ์ แต่พอโทรไปอีกก็ไม่รับ และไม่ตอบแชทเลย จึงทำให้ตนเข้าใจว่า เจตนาจะหลบไม่จ่ายเงิน จึงร้องเรียนกับสื่อและแจ้งความ

แต่หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน ต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจและไม่ติดใจเอาเรื่องซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ยังเจรจาจ่ายค่าดาวเรืองให้กับเกษตรกร โดยสรุปแม่ค้ายอมจ่าย เฉพาะดาวไข่จำนวน 52,300 ดอก โดยตีราคาเหมาให้ร้อยละ 10 สตางค์ เป็นเงิน 5,230 บาท แต่ดาวสีดิฟ และสีทอง ไม่ได้จ่ายให้ ซึ่งเกษตรกรก็พอใจ

จากนั้นก็ 2 คนก็ได้จับมือกัน และหลังจากมีการจ่ายเงินกับเรียบร้อย น.ส.ภัทราภรณ์ ก็ได้ถอนแจ้งความให้กับน.ส.ภานิชา ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็จบลงด้วยดี และจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปทำการค้าขายให้รอบคอบและสื่อสารกันให้เข้าใจมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก

ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้เตือนทั้ง 2 ฝ่ายว่าให้หยุดโต้ตอบหรือให้ร้ายกันในโซเชี่ยล ซึ่งหากฝ่ายใดมีการโพสต์และมีเนื้อหาทำให้อีกฝ่ายเสียหาย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน