พม.รุดช่วยครอบครัวหนุ่มกตัญญู ถูกรถไฟชนดับ แม่น้ำตานอง ขาดเสาหลัก เดินไปทำงานวันละ 2 รอบ เพราะตอนเที่ยงจะเอาข้าวที่ร้านมาให้แม่กับยายกิน ชาวบ้านรักใคร่

จากกรณี นายณรงค์เดช นันทอง อายุ 32 ปี หนุ่มยอดกตัญญู ออกเดินเท้าบนรางรถไฟไปรับจ้างทำงานล้างจาน ที่ร้านค้าย่านสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา เพื่อหาเงินเลี้ยงแม่และยาย ก่อนจะถูกรถไฟเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (17 ส.ค.) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 ส.ค.64 ว่าที่ ร.ต.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางไปยังบ้านในพื้นที่หมู่ 15 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของ นางเฉลียว นันทอง อายุ 58 ปี แม่ของ นายณรงค์เดช พร้อมสอบถามรายละเอียดเพื่อให้การช่วยเหลือ เบื้องต้นได้มอบถุงยังชีพ และดำเนินการทำเรื่องเงินสงเคราะห์ศพ โดยจะติดตามมาเยี่ยมบ้านในกรณีร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งบ้านหลังนี้ยังมี นางแฉล่ม นันทอง อายุ 87 ปี หญิงชราผู้พิการ ซึ่งเป็นแม่ของ นางเฉลียว อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน

นางเฉลียว เปิดเผยว่า ลูกชายพูดเป็นลางก่อนจะออกไปทำงาน โดยพูดว่าให้ตนทอดไก่และยำวุ้นเส้นไว้ ซึ่งตนก็ห้ามปราม บอกว่าอย่าเพิ่งออกไปทำงานตอนนี้เพราะยังเช้ามืดอยู่ ให้ไปตอนตีห้า เพราะรถไฟมันวิ่งเยอะ แต่ลูกชายบอกว่า จะไปทำงานแล้วไม่เป็นไรตายเป็นตาย ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าลูกชายถูกรถไฟชนตายเมื่อเช้านี้

ตนทำอะไรไม่ถูก พอออกไปยังจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เขาก็นำร่างลูกชายไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้รู้สึกหมดหวังและเสียใจมาก ลูกชายถือเป็นหัวหน้าครอบครัว หาเงินที่รับจ้างได้มาก็มาจุนเจือตนและแม่ของตน ซึ่งตนตกงานจากอาชีพแม่บ้านมานานหลายเดือนแล้วในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องอยู่บ้านคอยดูแลแม่ ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ทุกๆ วันลูกชายจะเดินเท้าไปทำงานระยะทางไปกลับประมาณ 6 กิโลเมตร

ในตอนกลางวันลูกชายจะเดินกลับมาบ้านทุกวัน หิ้วถุงแกงกับข้าวจากที่ร้านมาให้ตนและยาย และจะกินข้าวที่บ้าน ก่อนเดินกลับไปทำงานต่อ จากนั้นก็จะเดินกลับมาบ้านในช่วงเย็นอีกครั้ง โดยจะเดินไปกลับวันและ 2 รอบ ประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งก่อนลูกชายจะตาย ยังได้ซื้อเสื้อผ้าชุดชั้นในให้ตน ลูกชายเป็นคนดีมาก กตัญญู จนชาวบ้านแถวนี้รักและเอ็นดูลูกชายของตน ทุกวันนี้ตนอยากจะฆ่าตัวตายเพราะไม่เหลือใครแล้ว แต่ก็ยังต้องดูแลแม่ที่แก่ชราอยู่

ขณะที่ น.ส.มลฤดี ศรีสุขโข อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านของ นายณรงค์เดช เปิดเผยว่า นายณรงค์เดช เป็นที่รักของทุกคน เพราะเป็นคนดี มีความกตัญญู เดินเท้าไปกลับวันละหลายกิโลไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย ต้องการทำงานหาเงินมาให้แม่และเลี้ยงยายที่แก่ชรา โดยช่วงเที่ยงของทุกวัน นายณรงค์เดช ต้องเดินกลับมาบ้าน เอากับข้าวมาให้แม่และยาย และในช่วงเย็นถ้ากับข้าวที่ร้านที่ นายณรงค์เดช ทำงานเหลือ ก็จะหยิบมาเผื่อตนและเพื่อนบ้านเป็นประจำ โดย นายณรงค์เดช ยังได้รับเงินจากคนพิการพอได้มาก็จะไปซื้อข้าวปลา อาหารมาไว้ที่บ้าน ถือว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวนี้ ตนก็รู้สึกเสียใจ เนื่องจากเขาเป็นคนดีมาก ซึ่งต้องรอศพออกจากโรงพยาบาลมาก็จะไปช่วยงานที่วัด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน