” อธิรัฐ รัตนเศรษฐ ” สั่งรับมือฝนตกหนัก 5-10 ต.ค.นี้ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ให้กรมเจ้าท่าติดตามข้อมูลสภาพอากาศ และเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันที่ 6 ต.ค.2564 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ช่วงวันที่ 5 – 7 ต.ค.2564 มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ ประกอบกับในช่วงวันที่ 7 – 10 ต.ค.2564 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรนั้น

 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ

“ผมจึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าติดตามข้อมูลสภาพอากาศ และเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยหรือกำลังประสบอุทกภัย โดยให้หน่วยงานในพื้นที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ รถ เรือ และอุปกรณ์ รวมทั้งให้เจ้าท่าภูมิภาคแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำ ณ ที่ตั้งสำนักงานตลอดเวลา

พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง หากมีสถานการณ์รุนแรงให้เร่งประสานความร่วมมือจากจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ทั้งนี้ให้หน่วยงานในพื้นที่ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ผู้ประกอบการเรือหรือชาวเรือที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวทราบถึงสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย”

ฝนหนัก

ขณะที่ กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 แจ้งให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือระมัดระวังการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคลื่นสูงติดตามข่าวอากาศอย่างต่อเนื่อง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับผู้ควบคุมผู้ควบคุมเรือกลลำน้ำให้ระมัดระวังการเดินเรือจากกระแสน้ำที่ไหลแรงในระยะนี้

อุทกภัย

ความพร้อมศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า จากพายุดีเปรสชั่น ประจำพื้นที่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 – 7 และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1-8 ดังนี้
1. ตั้งศูนย์อำนวยการฯ พร้อมศูนย์อำนวยความสะดวก จำนวนรวมทั้งสิ้น 55 จุด
2. เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น 317 นาย
3. เตรียมความพร้อมทางรถ จำนวนรวมทั้งสิ้น 74 คัน / ทางเรือ จำนวนรวมทั้งสิ้น 64 ลำ
4. จัดชุดถุงยังชีพ จำนวน 620 ชุด อาหาร จำนวน 1,250 กล่อง น้ำดื่ม จำนวน 5,640 ขวด แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงจุดอำนวยความสะดวกที่ส่วนราชการจัดไว้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน