ศธ.เผยเปิดเรียน On Site 1 พ.ย.นี้ โรงเรียนต้องได้รับอนุญาตจาก คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน ตรีนุช เผย ศธ.อยู่ระหว่างทำแนวทางการเปิดเรียน ร่วมกับสธ. คาด 1-2 วันได้ข้อสรุป
วันที่ 19 ต.ค.2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้นักเรียน อายุ 12-17 ปี ว่าจากข้อมูลทราบว่า นักเรียนทั่วประเทศได้รับวัคซีนไปประมาณ 40% แล้ว และศธ.อยู่ระหว่างการจัดทำแนวทางการเปิดเรียนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คาดว่าภายใน 1-2 วัน จะได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องปรับรายละเอียดบางอย่างเพื่อสอดรับกับมาตรการที่ สธ.กำหนดด้วย
“ปัจจัยในการเปิดเรียนในเบื้องต้น อาจจะมาจากการฉีดวัคซีนให้นักเรียนและครู ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับ สธ.ในการกำหนดเปอร์เซ็นการฉีดวัคซีน เช่น ในพื้นที่สีแดงเข้มครูและนักเรียน ควรจะได้รับวัคซีนกี่เปอร์เซ็นจึงจะสามารถเปิดเรียนได้ และในพื้นที่ไม่มีการแพร่ระบาด แม้นักเรียนและครูได้รับวัคซีนไปตรงตามเป้า อาจเปิดเรียนในรูปแบบ On Site ได้เป็นต้น ส่วนการสุ่มตรวจ ATK อาจจะไม่ใช่ปัจจัยในการเปิดเรียนต่อไป เพราะ สธ.ให้ข้อมูลว่าหลายประเทศก็ไม่ได้ใช้การสุ่มตรวจ ATK มาเป็นปัจจัยในการเปิดเรียน แต่การตรวจ ATK อาจจะนำมาใช้ในสถานการณ์ที่พบว่ามีผู้ติดโควิดและต้องสุ่มตรวจเพื่อคัดกรองโรค” น.ส.ตรีนุช กล่าว
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า การเปิดเรียนนั้นต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมในแต่ละพื้นที่ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้โรงเรียนเปิดเรียนในรูปแบบใน ศธ.จะจัดทำกรอบแนวทางการเปิดเรียนรูปแบบกว้างๆ เพื่อให้โรงเรียนปฏิบัติตามเท่านั้น ส่วนโรงเรียนจะสามารถเปิดเรียนได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ถ้าโรงเรียนสามารถเปิดเรียนรูปแบบ On Site ได้ขอให้โรงเรียนปฏิบัติการที่ สธ.กำหนดอย่างเคร่งครัด
ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้จัดประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าแนวทางการเตรียมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดเนื่องจากต้องการสร้างความเข้าใจในการเปิดเรียนแบบ On Site เพื่อให้เขตพื้นที่ฯ รับนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำคู่มือและมาตรการเผชิญเหตุหากพบนักเรียนและครูติดเชื้อโควิด พร้อมเร่งรัดฉีดวัคซีนให้นักเรียนและครู โดยมีเป้าหมายคือ อยากให้โรงเรียนทั่วประเทศทราบแนวทาง วิธีการปฏิบัติภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมทราบนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. และนโยบายของ สพฐ. เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปิดเรียนในรูปแบบ On Site ในวันที่ 1 พ.ย.นี้
“การเปิดเรียนนั้น ขอให้โรงเรียนเสนอความพร้อมของตน ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นผู้พิจารณาว่าแต่ละแห่งสามารถเปิดเรียนได้หรือไม่ โดยการพิจารณานั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะดูการระบาดตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับตำบล ว่ามีการแพร่ระบาดของโควิดหรือไม่ ดังนั้นในจังหวัดสีแดง แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ แต่ถ้าพบว่าในตำบลไหน อำเภอไหนไม่พบผู้ติดเชื้อเลย คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอาจจะพิจารณาในโรงเรียนนั้นๆเปิดสอนในรูปแบบ On Site ได้ ” นายอัมพรกล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ในส่วนสพฐ. ได้เสนอให้ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ พิจารณาการจัดสรร ATK เพื่อสุ่มตรวจหาเชื้อนักเรียนและครู 20% ก่อนเปิดเรียน ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จึงขอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาว่าการสุ่มตรวจ ATK ในสถานศึกษานั้น สุ่มตรวจเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่สีแดงเข้มได้หรือไม่ ส่วนพื้นที่ ที่ไม่มีการระบาดอาจจะไม่ต้องสุ่มตรวจ ATK แต่ให้โรงเรียนเหล่านั้นปฏิบัติตามมาตการที่ สธ.กำหนดอย่างเคร่งครัดแทน นอกจากนี้ได้ให้สถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้เตรียมการรับมือ ป้องกันและเตรียมสถานศึกษาให้มีความพร้อมรับเปิดภาคเรียนด้วย
