หนุ่มฟื้นที่นา 4 ไร่ ปลูกข้าวญี่ปุ่น ทดลองอยู่ 2 ปี ขายได้กิโลฯ ละ 500 บาท เผนเคยไปอยู่ญี่ปุ่น ติดใจในรสชาติ อนาคตอาจแปรรูป คนเริ่มสั่งเยอะ

วันที่ 10 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์โคชิฮาริ สามารถปลูกได้แล้วที่ดินแดนอีสานโดยเฉพาะจ.อุดรธานี ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายเสกสรร โพธิสาร อายุ 43 ปี ชาวบ้านสร้างก่อ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า แรงบันดาลใจในการปลูกข้าวญี่ปุ่นพันธุ์นี้เกิดจาก ก่อนนั้นเคยไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ได้ไปกินข้าวญี่ปุ่นที่มีรสชาติอร่อย หลังกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นจึงมีแนวคิดที่จะเอากลับมาปลูกที่บ้านเกิดเพื่อเอาไว้กินเอง

จึงได้ค้นหาพันธุ์ข้าวมาเพาะปลูก พันธุ์ข้าวที่เลือกคือ สายพันธุ์ Koshihikari (โคชิฮิคาริ) ซึ่งเรารู้มาก่อนแล้วว่า ข้าวพันธุ์นี้เป็นข้าวเบอร์ 1 และยังเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมที่ญี่ปุ่น ตอนแรกสั่งมาลอง 1 กรัม ราคา 1,600 บาท โดยทดลองปลูกในระบบโรงเรือนก่อน เมื่อได้ผลจึงนำมาขยายปลูกในพื้นดิน ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่ 2 ปี จนประสบความสำเร็จ สามารถปลูกข้าวได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ และมั่นใจได้ว่าข้าวญี่ปุ่นสามารถปลูกที่ประเทศไทยได้

นายเสกสรร บอกอีกว่า พื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดมี 4 ไร่ หมุนเวียนการปลูก โดยแต่ละรอบนั้นจะแบ่งปลูกเป็นรอบละ 2 งาน ให้ได้ตลอดทั้งปี ผลผลิตที่ได้เฉลี่ยประมาณ 6-7 ร้อยกิโลกรัมต่อไร่ ข้าวญี่ปุ่นนี้เราผลิตแบบอินทรีย์ ที่สำคัญเราจะไม่ปลูกข้าวปนกับข้าวพันธุ์อื่นเพื่อเป็นการป้องกันการข้ามสายพันธุ์ ส่วนการตลาดในการจำหน่ายผลผลิตนั้น ช่วงแรกเราคิดจะปลูกไว้กินเอง ช่วงหลังมีคนรู้จักมากขึ้นก็เริ่มประกาศขายทางสื่อออนไลน์ มีคนสนใจซื้อไปกินจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีคนสนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ในวิธีการปลูกอีกด้วย อนาคตเราวางแผนไว้ว่า อาจจะแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น สบู่หรือน้ำนมข้าวอะไรประมาณนี้ ตอนนี้ทำเพียงแค่เป็นข้าวสารและข้าวเปลือกเท่านั้น ราคาจำหน่ายข้าวเปลือก 500 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาข้าวสาร จำหน่ายกิโลกรัมละ 100 บาท

ปัญหาตอนนี้ที่พบส่วนใหญ่คือ นก แก้ไขโดยการใช้ตาข่ายคลุมไว้เพื่อป้องกันนก ส่วนโรคที่มีในพืชนั้นมีน้อยมาก เพราะปลูกระบบอินทรีย์ มีเพียงโรคราน้ำค้างเท่านั้น แต่เราก็สามารถจัดการได้ด้วยการใช้น้ำหมักและน้ำส้มควันไม้ฉีดพ่นเพื่อเป็นการป้องกัน “ขอฝากไปยังเพื่อนเกษตรกรว่า คนที่กำลังมองหาพืชที่จะปลูกหากเป็นข้าวควรปลูกข้าวที่มีมูลค่าสามารถกินเองและทำตลาดในชุมชนเราได้ และหากใครมีความรู้ความสามารถก็ต่อยอดเพิ่มเติมไปได้อีก” สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ Facebook เสกสรร โพธิสารได้ตลอดเวลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน