แจงปมใบเลื่อยราคา1แสน เหตุ9นักโทษหลบหนี เผยเรือนจำมีข้อจำกัด ไร้เครื่องตรวจโลหะ ขณะที่นักโทษหลบหนีทั้งหมด ตามจับได้แล้ว 5 คน

จากกรณีมีผู้ต้องขัง 9 คน หลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อยในเขตพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 11 ต.ทุ่งน้อย อ.เมืองนครปฐม โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ ถูกแยกกักตามมาตรการป้องกันโควิด 14 วัน ก่อนส่งเข้าเรือนจำ หลังเกิดเหตุพตรงกรงเหล็กหน้าห้องคุมขัง ถูกตัดไป 1 ช่อง ขนาดสูง 30 เซนติเมตร กว้าง 19 เซนติเมตร และพบใบเลื่อยตัดเหล็กถูกวางทิ้งไว้ใกล้ห้องน้ำ โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องขังได้แล้ว 5 คนยังเหลือหลบหนีอีก 4 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 12 ธ.ค. 2564 พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบ.เรือนจำกกลางนครปฐม เปิดเผยว่า สำหรับการนำสิ่งของเข้าไปในเรือนจำนั้น ทางเรือนจำมีมาตรการที่เข้มงวดอยู่แล้ว แต่ของเรือนจำทุ่งน้อยที่เกิดเหตุนั้น อาจมีข้อจำกัดของสถานที่ ไม่ได้มีเครื่องตรวจโลหะ หรือเครื่องเอกซเรย์ แบบเรือนจำใหญ่

เป็นไปได้ที่โอกาสมีสิ่งของเล็ดลอดเข้าไปในช่องทางผิดปกติ หรือช่องทางพิเศษ ในส่วนนี้เราอยู่ระหว่างการประสานข้อมูล กับฝ่ายสืบสวนและสอบสวน อย่างไรก็ตามไม่ว่าผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากเป็นประชาชนทั่วไป หรือผู้สนับสนุน แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เราจะไม่มีการละเว้น จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

สำหรับข่าวลือที่มีที่ระบุว่าใบเลื่อยมีราคาถึง 1 แสนบาท นั้นน่าจะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันเพียงเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติ ราคา 100,000 บาทของใบเลื่อย คงจะไม่ได้ถึงขั้นนั้น สมัยก่อนมีคนใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการตัดโลหะ หรือกระจก ไม่ใช่มีเพียงแค่ใบเลื่อย แม้กระทั่งหัวไฟแช็ก ที่เราซื้อขายกันเพียงอันละ 5-10 บาท หินของหัวไฟแช็คที่สามารถทำให้เกิดประกายไฟนั้นจะมีความคมมากพอที่สามารถกรีด ตัดกระจก หรือตัดโลหะก็ทำได้

เป็นไปได้ว่าผู้ต้องขังอาจจะมีเวลามากพอในการเตรียมตัว เพราะเท่าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้พบพยานวัตถุ เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจะเร่งคลี่คลาย เชื่อว่าหลังจากที่เราได้ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผลของการสอบสวนจะออกสู่สาธารณะชนโดยเร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน