ทร.ซ้อมรบกลางคืน หลังอั้นมา 6 ปี ‘บิ๊กเฒ่า’ ย้ำการพัฒนากำลังพล ให้พร้อมรับสถานการณ์จริง
วันที่ 21 เม.ย.65 พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงช่วงเวลากลางคืน ระหว่างการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จัดการฝึกอีกครั้งหลังจากว่างเว้นมา 6 ปี เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ โดยการฝึกดังกล่าวจัดขึ้นที่สนามฝึกหมายเลข 16 บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี โดยกองทัพเรือได้นำยุทโธปกรณ์จากหน่วยทหารราบ ทั้งยานเกราะล้อยาง BTR ยานเกราะล้อยาง VN-16 ปืนใหญ่อัตราจร ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. จรวดต่อสู้รถถังโทว์ เฮลิคอปเตอร์ อากาศยานไร้คนขับและอาวุธหลากหลายชนิดเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการฝึกตีโต้ตอบของกองพันทหารราบหนุนกอง กำลังจันทบุรีตราด (พัน ร. หนุน กจต.) ซึ่งเป็นการฝึกชุดแรก พล.ร.อ.สมประสงค์, พล.ร.อ.ธีระกุล กาญจนะ รอง.ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผช.ผบ.ทร. ได้ลงไปในสนามซ้อมรบเพื่อพูดคุยกับกำลังพล ปลุกขวัญกำลังใจ และยิงอาวุธกระสุนจริงด้วยตัวเอง โดย พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้ยิงปืนกล M-60 E4 จำนวน 1 ชุดยิง แม้ในช่วงต้นปืนจะไม่ทำงาน จากนั้นในช่วงหัวค่ำเป็นการยิงป้องกันที่มั่นขั้นสุดท้ายในการตั้งรับ โดยมีการใช้อาวุธเต็มรูปแบบ ด้วยการใช้อาวุธปืนทำการยิงนาน 20 นาที ใช้กระสุนปืนนับหมื่นนัด
พล.ร.อ.สมประสงค์ กล่าวภายหลังตรวจการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง เวลากลางคืนในรอบ 6 ปี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ที่สนามฝึกบ้านจันทรเขลม จ.จันทบุรี ว่าเป็นการฝึกเพื่อเสริมสร้างความชำนาญ เพราะไม่ได้ฝึกมาหลายปีแล้ว ฝึกก็เพื่อให้เกิดความพร้อม เพราะช่วงเวลากลางวันนั้นสามารถมองเห็นได้ แต่ในช่วงเวลากลางวันคืนไม่สามารถมองเห็น จึงต้องดำรงการฝึกเอาไว้ ทั้งองค์บุคคล องค์ยุทธวิธี องค์วัตถุ
สำหรับองค์วัตถุก็คือยุทโธปกรณ์ที่ต้องรักษาไว้ให้ได้ พยายามบำรุงรักษาซ่อมแซมให้ใช้งานได้นานที่สุด ส่วนองค์บุคคลเป็นเรื่องสำคัญ ตนเน้นตลอดในเรื่องความปลอดภัยในการฝึก เพราะ อาวุธจะดีขนาดไหนก็ตาม ยุทธวิธีจะดีขนาดไหน ถ้าองค์บุคคลไม่ดี ก็ไม่มีประโยชน์ จึงต้องสร้างความชำนาญให้องค์บุคคล และต้องมีสติ เพราะเป็นการใช้กระสุนจริง หากประมาทจะเกิดปัญหาได้
ทั้งนี้ตนได้เน้นย้ำการฝึกว่า เราฝึก 100% เพราะเวลาเกิดเหตุจริงอาจเหลือ 60-70% เพราะอาจมีปัจจัยต่างๆมาเกี่ยวข้อง เช่น ความกดดัน ถ้าฝึกมากเท่าไหร่ กำลังพลก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น
ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่ต้องจัดการให้ได้ เพราะประเทศมีข้อกำจัดเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเราเข้าใจดี แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อม เพราะผลประโยชน์ของชาติทางทะเลมีจำนวนมาก ซึ่งเรายังมีภารกิจอื่นๆที่ไม่ใช่การสงครามจำนวนมาก เช่น การช่วยเหลือประชาชน ที่ต้องใช้งบประมาณทั้งนั้น จึงต้องบริหารจัดการงบให้ดีที่สุด อาวุธยุทโธปกรณ์ใดเก่า หากซ่อมได้ ก็ต้องซ่อม รักษาไว้ให้ดี ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพเรือ เราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศ
เมื่อถามถึงกรณีโครงการจัดหาเรือดำน้ำที่การพูดคุยระหว่างกองทัพเรือกับบริษัท CSOC ในเรื่องเครื่องยนต์ MTU จากปลายเดือน เม.ย. ไปต้นเดือน พ.ค.นี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ที่มี พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานฯคงจะหารือในรายละเอียด และทำให้ดีที่สุด รักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง เราต้องยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ