นครราชสีมา สถานการณ์โรคไข้หูดับ ปี65 ช่วง 5 เดือน พบ 4 จังหวัด “นครชัยบุรินทร์” ผู้ป่วย 37 ราย เสียชีวิต 7 ราย โคราชสูงสุด สาธารณสุขจังหวัด แนะกินสุกเตือนเปิบดิบเสี่ยงดับ เร่งปชส.ปชช.

7 มิถุนายน 2565 – กลุ่มระบาดวิทยาและตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา รายงานสถานการณ์โรคไข้หูดับ เขตสุขภาพที่ 9 ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม –14 พฤษภาคม 2565 พบว่า 4 จังหวัด “นครชัยบุรินทร์” ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ จ. บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ มีผู้ป่วยโรคไข้หูดับ รวม 37 ราย เสียชีวิต 7 ราย

เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า จังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยมากสุด 35 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ในขณะที่จังหวัดชัยภูมิ พบผู้ป่วย 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต จังหวัดสุรินทร์ พบผู้ป่วย 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่พบผู้ป่วยและไม่มีผู้เสียชีวิต

นพ.นิรนทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เรื่องทานเมนูดิบ เสี่ยงให้เกิดโรคอันตรายร้ายแรง คือ โรคไข้หูดับ เกิดจากการทานเนื้อหมูสุกๆ ดิบๆ เป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในเนื้อเยื่อของหมู ทำให้เกิดอาการสมองฝ่อ และเป็นอันตรายทำให้เสียชีวิตได้

ซึ่งใน จ.นครราชสีมา ยังพบอยู่ประปรายในหลายพื้นที่ จึงขอเน้นย้ำไปยังพี่น้องประชาชน ขอให้ซื้อหมูที่มีแหล่งที่มาที่ไปชัดเจน ซื้อจากตลาดหรือห้างสรรพสินค้าที่เชื่อถือได้ และขอให้ปรุงสุก








Advertisement

ส่วนการรับประทานหมูกระทะ ปิ้งย่าง ขอให้ทำให้สุกก่อนจึงค่อยทาน เพราะหากกินดิบจะทำให้เสี่ยงเกิดการติดเชื้อทางเดินอาหาร หรือมีอาการท้องเสียรุนแรงเฉียบพลัน จนทำให้ช็อคเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังเสี่ยงทำให้เกิดพยาธิตัวตืด

ตอนนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เร่งทำความเข้าใจประชาชน อย่ารับประทานอาหาร เนื้อสัตว์ทุกชนิดแบบดิบๆ โดยเริ่มประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ระดับโรงเรียน ด้วยการให้ครูที่สอนสุขศึกษา ถ่ายทอดความรู้และวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องให้กับเด็กนักเรียน

ส่วนในหมู่บ้าน ชุมชน จะมีเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ผู้นำชุมชนและ อสม.ช่วยกระจายความรู้และแนวทางปฏิบัติให้กับประชาชน เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หูดับอยู่ และพบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้อยู่ประปราย

จึงอยากให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ตระหนักและให้ความสำคัญ รู้จักป้องกันตัวเอง ทั้งการรับประทานอาหารปรุงสุก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือให้สะอาด ถ้าปลูกฝังเด็กๆ ให้มีความรู้เรื่อง ดูแลตนเองให้ปลอดโรคตั้งแต่ยังเล็กๆ จะติดเป็นนิสัย สามารถป้องกันตนเองให้ปลอดโรคได้ทุกช่วงวัย ช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคได้นั่นเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน