สลด พ่อเฒ่าโดนฆาตกรรมอำพราง ทุบหัว-แทงคอ แต่ถูกทิ้งเหมือนรถล้ม พี่ถึงบ้านต่อยน้องชาย เชื่อก่อเหตุฆ่าพ่อ เผยเงื่อนงำ กุญแจรถปิด-เกียร์ว่าง

เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 29 มิ.ย.65 ร.ต.ท.จิรายุ ตาจงราช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งพบศพชายสูงอายุนอนหงายเสียชีวิตในลักษณะขาพาดอยู่บนรถเข็น บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ช่วงทางโค้งบ้านไพศาล ต.ไพศาล ฝั่งขาเข้าอำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยมีรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ใกล้กับศพ เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนเสียชีวิต จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ประโคนชัย และหน่วยกู้ภัยบ้านสองเมือง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบร่าง นายเขมา (สงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี นอนหงายเสียชีวิตในลักษณะขาท่อนล่างจนถึงหัวเข่าพาดอยู่บนรถเข็นสีฟ้า พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีเทา ทะเบียน ขวต-653 ชลบุรี ล้มคว่ำอยู่ใกล้กับศพด้วย แต่จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวชน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ไม่ได้รับความเสียหาย

ที่น่าตกใจคือเมื่อแพทย์ตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้น พบที่บริเวณศีรษะคล้ายกับถูกของแข็งทุบตีเป็นแผลฉกรรจ์จนกะโหลกเปิด ทั้งมีแผลคล้ายถูกของมีคมเฉือนที่ใบหน้าอีกหลายแผล รวมถึงที่ลำคอและท้ายทอยก็มีรอยเหมือนถูกของมีคมแทงอีก 2 แผลด้วย เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่น่าจะถูกทำร้ายร่างกายแล้วนำศพมาทิ้งอำพราง จึงให้หน่วยกู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด

จากนั้นพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบบ้านของผู้เสียชีวิตด้วย โดยที่บ้านก็มีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งรอยคล้ายคราบเลือดตามพื้นดินแต่เหมือนกับถูกขุดเอาดินตรงที่มีหยดเลือดออก ทั้งพบรอยครูดกับพื้นดินคล้ายกับมีการลากอะไรบางอย่าง

ทั้งยังพบที่นอนของผู้ตายถูกเผาทิ้งเอาไว้อยู่หลังบ้านด้วย และพบมีดปลายแหลมอีก 2 เล่มอยู่ภายในบ้านแต่ไม่มีคราบเลือด จึงเก็บไปตรวจสอบ นอกจากนั้นยังเจอคราบเลือดหยดตั้งแต่ถนนลาดยางหน้าบ้าน ไปจนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรด้วย จากร่องรอยที่พบทำให้เชื่อได้ว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพไปทิ้งอำพรางให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัว นายชัชวาล (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ลูกชายคนที่ 5 ของผู้ตาย ไปสอบปากคำที่โรงพัก เนื่องจากนายชัชวาล อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับผู้ตายเพียง 2 คน ส่วนลูกอีก 5 คน แยกย้ายไปมีครอบครัวและอาศัยอยู่ที่อื่น

จากการสอบถามนายชัชวาล เบื้องต้นปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำร้ายพ่อหรือทำให้พ่อเสียชีวิต แต่กลับอ้างว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 มิ.ย.) พ่อลากที่นอนของตัวเอง ออกมาวางไว้ที่หลังบ้าน แล้วตอนประมาณตี 3 พ่อก็จุดไฟเผาที่นอนที่ลากมาไว้หลังบ้าน แล้วบอกให้ตนคอยดูเดี๋ยวไฟจะลามไหม้บ้าน จากนั้นพ่อก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้ว่าพ่อไปไหน มารู้อีกทีก็ตอนมีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวไปสอบที่โรงพัก








Advertisement

ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายชัชวาล ลูกชายคนที่ 5 ที่อาศัยอยู่กับผู้ตายไปสอบปากคำที่โรงพัก นายวีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พี่ชายคนโต ซึ่งเดินทางไปดูศพพ่อที่เกิดเหตุและมาที่บ้านด้วย พุ่งเข้าชกต่อยนายชัชวาล ด้วยความโมโห ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบนำตัวขึ้นรถ

จากการสอบถาม นายวีรวัฒน์ พี่ชายคนโตว่าทำไมถึงเข้าไปชกต่อยน้องชาย พี่ชายก็บอกว่าตนเชื่อว่าน้องเป็นคนฆ่าพ่ออย่างแน่นอน เพราะพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับน้องชายบ่อยครั้ง และน้องชาย เคยพยายามจะทำร้ายพ่อด้วย จนระยะหลังตนก็จะแวะเวียนมาดูพ่อที่บ้านเรื่อยๆ แต่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่น้องจะฆ่าพ่อเป็นเพราะอะไรเพราะน้องยังไม่บอกอะไร

ด้าน นายนัฐวัตร ปานเพรช อาสากู้ภัยบ้านสองเมือง เล่าว่า หลังได้รับการประสานให้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่าพบศพคนเสียชีวิตอาจจะถูกรถเฉี่ยวชน แต่เมื่อไปเห็นที่เกิดเหตุพบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งรถ จยย.ที่ล้มคว่ำอยู่ไม่ได้มีร่องรอยความเสียหาย กุญแจหมุนอยู่ในลักษณะปิด และเกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ที่

สำคัญพบรอยบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะด้านหน้า คล้ายถูกของแข็งทุบจนกะโหลกศีรษะเปิด ทั้งยังมีรอยคล้ายของมีคมเฉือนที่ใบหน้า แทงคอและท้ายทอยอีกหลายแผล จากประสบการณ์ที่ทำงานกู้ภัยฯ เชื่อว่ารอยแผลดังกล่าวไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุรถชน น่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมอำพรางมากกว่า ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพิสูจน์ และหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน