เหยื่อแชร์บ้านออมเงิน “มะลิวรรณ” ร่ำไห้วอนคืนเงิน 4 หมื่น โอดเล่นพราะต้องการหาเงินไว้ดูแลลูกสาว 18 ป่วยติดเตียง ต้องใช้สัปดาห์ละ 2-3 พันบาท สุดช็อกวันแชร์ล้ม

วันที่ 20 ก.ค.2565 จากกรณีกลุ่มตัวแทนผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนออมเงินวงแชร์ “บ้านมล เท้ากุ้ง” และ “บ้านมะลิวรรณ เท้ากุ๊ก” เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจ บก.ปอศ. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก) โดนต่างได้รับความเดือดร้อนสูญเงินรวมกันกว่า 30 ล้านบาท

โดยเรื่องนี้ นางกรรณิการ์ อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ไม่สามารถเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีได้ด้วยตัวเอง ต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้ทนายโนบิไปดำเนินการแทน เพราะต้องดูแลลูกสาวอายุ 18 ปีป่วยเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตนอนป่วยติดเตียง หลังจากป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว และหัวใจโตติดเชื้อ เมื่ออายุได้ 13 ปี ต้องให้อาหารลูกทางสายยาง ส่วนสาเหตุที่เล่นแชร์ก็เพื่อหารายได้มาเป็นค่าดูแลรักษาลูกสัปดาห์ละ 2-3 พันบาท

เศร้า

เมื่อ 2 ปีก่อน มีหลานสาวมาชักชวนให้เล่นแชร์ในกลุ่มบ้านออมเงิน มะลิวรรณ มีท้าวแชร์ชื่อกุ๊ก มีบ้านอยู่ตำบลเดียวกัน เพื่อซื้ออาหาร แพมเพิส ยา และอุปกรณ์ในการดูแลลูก ช่วงแรกเลือกเปียแชร์เป็นมือสุดท้าย เพราะดอกเบี้ยดีไม่มีปัญหาอะไรจึงเพิ่มวงเล่น 5 วง

ส่งหมดไป 2 วงเหลือ 3 วงเพื่อหมุนเงินมาใช้จ่ายดูแลลูกและค้าขาย พอส่งไปได้สักระยะท้าวแชร์ก็ประกาศวงแชร์ล้ม ปิดเพจโทรไปก็ไม่รับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ เมื่อหักลบกันแล้วสูญเงินไปกว่า 4 หมื่นบาท ลูกแชร์แต่ละวงแต่ละบ้านมีประมาณ 200-300 คนจึงรวมกันไปร้องขอความเป็นธรรมกับทนายโนบิ และเดินทางไปแจ้งความที่กองปราบ

ลูกสาว

นางกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า หลังทราบว่าวงแชร์ล้ม รู้สึกเสียใจ ตั้งความหวังไว้เยอะมากกับเงินก้อนนี้ เพราะว่าจะเอาเงินมาเก็บไว้รักษาลูก เป็นค่าใช้จ่ายดูแลลูกในแต่ละวัน เพราะวันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะใช้จ่ายเท่าไหร่ อย่างน้อยก็เก็บไว้ให้ลูก จุกจนพูดไม่ออก เพราะเราส่งเงินไม่ขาด ไม่ให้ทวง แต่พอถึงวันที่เราจะรับเงิน กลับประกาศว่าแชร์ล้ม ร้องไห้เสียใจ วอนเท้าแชร์ให้เห็นใจบ้าง บทเรียนครั้งนี้ได้รับความเจ็บปวดและความเชื่อใจ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน