‘บิ๊กโจ๊ก’ เชิญผู้แทนตร.รัสเซีย-ญาติ หนุ่มรัสเซียที่หายตัว ก่อนเป็นศพกลางป่า เผยมีอาการป่วย หมอให้แอดมิตรพ. แต่ไม่ยอม ก่อนมีคนไปพบเหลือแต่กระดูก

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 ที่สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท.

เชิญผู้แทนเจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซีย เพื่อนของ นายนิกิต้า เกรกอเยฟ อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ตายร่วมรับฟังรายงานการสืบสวนรวมทั้งชี้แจ้งข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการสืบสวนการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย หลังพบศพนายนิกิต้า ที่บริเวณป่าละเมาะเนินเขาขี้แรด อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ในสภาพศพเหลือแต่โครงกระดูก บริเวณรอบๆ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิต และรวบรวมพยานหลักฐาน เรียบเรียงช่วงเวลาที่ผู้เสียชีวิตอยู่ในประเทศไทยทั้งหมดจากการสืบสวนพบรายละเอียด เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 นายนิกิต้าเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยเดินทางมากับ นายอีกอ พันฟีลอฟ อายุ 36 ปี สัญชาติรัสเซีย

จากนั้นท่องเที่ยวและเข้าพักอยู่ภายในจังหวัดภูเก็ต และขอต่อวีซ่าอีก 60 วัน จากกรณีโรคระบาดโควิด จะครบกำหนดวันที่ 30 ต.ค.65 แต่นายอีกอเดินทางกลับประเทศรัสเซียไปก่อนเมื่อวันที่ 7 ส.ค.65 นายนิกิต้า จึงพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง








Advertisement

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ส.ค.65 นายพาเวล เชตเวอตินอฟสกี้ อายุ 35 ปี สัญชาติรัสเซีย เดินทางจากรัสเซีย มาเที่ยวและพักผ่อนเป็นเพื่อนนายนิกิต้า โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ย.65 นายพาเวล มาเที่ยวงานเทศกาลฟูลมูน ที่เกาะพะงัน จึงเช่ารถยนต์ขับกันมา ตั้งใจจะมาเที่ยวประมาณ 3-4 วัน ระหว่างนั้นนายนิกิต้ามีอาการป่วย อาเจียน ทานอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ

วันที่ 13 ก.ย.65 เวลา 08.00 น. นายพาเวลจึงพานายนิกิต้าไปพบแพทย์ที่ รพ.เกาะพะงัน เบื้องต้นแพทย์ต้องการให้นายนิกิต้า เข้าพักที่ รพ. เพื่อดูอาการแต่นายนิกิต้าไม่ยินยอม และเดินออกจากรพ. ไปทางเชิงเขาขี้แรดก่อนหายตัวไป

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 15 ก.ย.65 นายพาเวลเห็นว่านายนิกิต้ายังไม่กลับมา จึงแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งก็ออกตามหา โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดโดยรอบ และสอบถามจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากบริเวณเชิงเขาขี้แรดเป็นพื้นที่ป่าและสวนมะพร้าว จึงเดินสำรวจพื้นที่เพื่อติดตามหาร่องรอยของนายนิกิต้า จนเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการพบโครงกระดูกของผู้ตาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยมีเหตุเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ จึงจะต้องสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากที่แจ้งความหายและการพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ติดตามหาเบาะแสของผู้ตาย

โดยขณะนี้รอผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช เพื่อทราบสาเหตุการตายที่ชัดเจน ในส่วนของการสืบสวนทราบว่า นายนิกิต้ามีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน แต่ไม่ยินยอมนอนพักรักษาตัว โดยหนีออกมาจากโรงพยาบาล ก่อนจะพบเป็นศพเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยบาดแผลทำให้เสียชีวิต และหลังจากนี้จะสรุปผลการสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทย ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยทุกหน่วย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว มีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

ที่มา มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน