จนท.พิทักษ์ป่า หึงโหด ยิงเมีย หนีเข้าป่า ก่อนตัดสินใจกลับมาบ้าน ก่อเหตุสลดหนีความผิด เพื่อนช็อก ผ่านไป 3 วันเพิ่งเจอศพหลังได้กลิ่นเหม็นคลุ้ง
จากกรณี นายนำทวน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .22 ยิงใส่ น.ส.นภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นภรรยา และเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี จำนวน 4 นัด จนบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านพักเจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าฯ ม.1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในผืนป่าสลับพระ ด้านหลังบ้านพักซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 100,000 ไร่ ทำให้ยากแก่การติดตามจับกุมตัวนั้น อ่านข่าว : เสียงปืนดังสนั่น! เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า หึงโหด ยิงภรรยา ก่อนหนีเข้าป่า
จนท.พิทักษ์ป่า หึงโหด ยิงเมีย หนีเข้าป่า ก่อนตัดสินใจกลับมาบ้าน ก่อเหตุสลดหนีความผิด
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ต.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรีว่า พบศพ นายนำทวน ผู้ก่อเหตุ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักของเจ้าพนักงานศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า ห้องที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์การ และแพทย์เวร
ที่เกิดเหตุภายในห้องพักพบศพ นายนำทวน สภาพสวมกางเกงวอร์มขายาวสีดำและเสื้อยืดสีแดงของเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมไฟป่า มีบาดแผลถูกกระสุนขนาด .22 เข้าที่บริเวณขมับด้านขวา 1 นัด นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด
จากการสอบถาม นางอำไพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี พี่สาวของผู้ตาย กล่าวว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ตนพยายามติดต่อหาน้องชายอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ แม้จะพาชาวบ้านเข้าไปช่วยกันตามหาภายในป่าแต่ก็ไม่พบร่องรอย กระทั่ง วันนี้ได้ทราบข้อมูลจากเพื่อนของผู้ตายที่ทำงานอยู่และพักอยู่ห้องใกล้กันว่ามีกลิ่นเหม็นลอยออกมาจากห้องของน้องชาย
นางอำไพ กล่าวต่อว่า เมื่อเปิดประตูเข้าไปดูจึงพบน้องชายนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนพร้อมอาวุธปืนขนาด .22 แบบไทยประดิษฐ์ที่เป็นของน้องชายตกอยู่ข้างตัว จึงเชื่อว่า น้องชายของตนน่าจะรู้สึกเครียดและสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ตัดสินใจแอบกลับเข้ามาภายในบ้านพักแล้วใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุยิงตัวตายเพื่อหนีความผิด
Advertisement
เบื้องต้นจากสภาพศพสันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน จึงเชื่อว่า นายนำทวนน่าจะแอบกลับเข้ามาที่บ้านพักตั้งแต่หลังวันเกิดเหตุ แล้วใช้อาวุธปืนยิงตัวตายเพื่อหนีความผิด เนื่องจากในช่วงเช้าหลังวันเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้ยินเสียงดังคล้ายกระสุนปืน 1 นัด แต่คิดว่าเป็นเสียงที่ดังออกมาจากในป่าจึงไม่ได้มาตรวจสอบที่ห้องพักของนายนำทวน เพราะไม่มีใครคาดคิดว่านายนำทวนจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีความผิดเช่นนี้
