“เขาชนไก่” ปรับลุกส์ฝึก รด. ยกเครื่องปลอดภัย สะอาด จัดฝักบัว ส้วมเคลื่อนที่ รับ นศท. 4.5 หมื่นนาย ผบ.นรด. ขอให้ครอบครัวอุ่นใจ เตรียมเสนอ ผบ. เปิดช่องรับ นศท. หญิง เป็นทหาร

10 ม.ค. 66 – ค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี พล.ท.วสุ เจียมสุข ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เป็นประธาน ประกอบพิธีทางศาสนา บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่

ทั้งเปิดกองอํานวยการฝึกภาคสนามนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมชมการเตรียมความพร้อม ใน 4 มาตรการ ความปลอดภัยในการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลให้แก่ ผู้ปกครองจากนโยบายการฝึกภาคสนาม

ข้อห่วงใยของผู้บังคับบัญชาที่ให้ความสําคัญกับเรื่องความปลอดภัย ของนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) เป็นอันดับแรก หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) สำหรับนศท. ประจําปีการศึกษา 2565 นี้ จะมี นศท. ชั้นปีที่ 3 จากส่วนกลาง, นศท. ชั้นปีที่ 4 และชั้นปีที่ 5 จากทั่วประเทศ เข้ารับการฝึก ณ ค่ายฝึก นศท. เขาชนไก่ มากกว่า 45,000 คน

โดย มาตรการที่ 1 ความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย จัดรถโดยสารรับ-ส่ง นศท. จาก กทม. ไป-กลับ ค่ายฝึกเขาชนไก่ กว่า 1,200 เที่ยว ต้องตรวจสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถ และรถโดยสาร ให้พร้อมและปลอดภัยในการใช้งาน

โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนออกเดินทางในช่วงเช้าของทุกวัน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนย้ายประจําอยู่บนรถ เพื่อกํากับดูแลในระหว่างการเคลื่อนย้ายให้เกิดความปลอดภัย อีกทั้งจัดรถนําขบวนจาก มทบ.11และ มทบ.17 ร่วมกับ ตํารวจทางหลวงในแต่ละพื้นที่ ควบคุมระยะต่อและจํากัดความเร็วของขบวนรถ

มาตรการที่ 2 ความปลอดภัยการฝึก นอกเหนือจากการปรับปรุงซ่อมแซม จัดหา สิ่งอุปกรณ์เครื่องช่วยฝึกทดแทนที่ชํารุดหมดสภาพการใช้งานแล้ว ยังจัดทําบัตรข้อมูลประจําตัว นศท. ให้พกติดตัวไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านขวาตลอดเวลาที่เข้ารับการฝึก (ชื่อ-สกุล อายุ หมู่เลือด โรคประจําตัว ยาที่แพ้ หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง เพื่อนสนิท)

พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจําทุกกองร้อย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ พร้อมยาและเวชภัณฑ์ประจํากองอํานวยการฝึกฯ 24 ชม. โดยรับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ และโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ที่อยู่ในพื้นที่

นอกจากนั้นให้ติดสัญลักษณ์ (ผูกโบว์สีแดงแขนเสื้อด้านขวา) เพื่อให้ครูฝึกได้สังเกตและเฝ้าระวังนศท.มีความเสี่ยง เช่น เป็นโรคอ้วน หรือมีโรคประจําตัว พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ-ทดสอบความพร้อมของสิ่งอุปกรณ์

โดยเฉพาะที่สถานีทดสอบกําลังใจ การไต่หน้าผา – ลงทางดิ่ง สถานีที่มีการใช้สิ่งอุปกรณ์ประเภทกระสุน และวัตถุระเบิด และการฝึกกระโดดร่มแบบพาราเซล รวมทั้งจัดให้มีรถพยาบาล ฝ่ายการแพทย์ พร้อมพลขับ ประจําในพื้นที่การฝึก รวมทั้งแต่งตั้งนายทหารนิรภัยการฝึก คอยให้คําแนะนํา ตรวจตรา และกํากับดูแลการปฏิบัติ ของเจ้าหน้าที่ครูฝึก ให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย

มาตรการที่ 3 ความปลอดภัยจากโรคลมร้อน มีการฝึกอบรมครูฝึกทุกนายให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลม ร้อน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้ นศท. จัดการอบรมให้รู้ถึงวิธีการป้องกันตนเอง การสังเกตอาการ และกําหนดให้เจ้าหน้าที่ส่วนปกครองเน้นย้ําให้ นศท.ทุกนาย ให้ความสําคัญกับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสังเกตสีปัสสาวะของตนเองทุกวัน

รวมทั้ง กวดขันให้ นศท.เติมน้ําให้เต็มกระติก ก่อนออกไปทําการฝึก และดื่มน้ําทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยระบายความร้อนของร่างกาย รวมทั้งติดตั้งเครื่องมือวัดอุณหภูมิ วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ และธงสัญญาณในพื้นที่การฝึก เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนและปรับระยะเวลาการฝึกให้เหมาะสม

อีกทั้ง จัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจําทุกกองร้อย และมีรถพยาบาลที่ติดตั้ง อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยจากโรคลมร้อนด้านการป้องกันโรคโควิดยึดถือแนวทางการฝึกตามมาตรฐานการป้องกันและ ควบคุมโรค ทบ. ตรวจคัดกรอง กําลังพล เจ้าหน้าที่ทุกส่วน รวมทั้งตัว นศท.ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม และตรวจ ATK ไม่เกิน 48 ชั่วโมงในห้วงการฝึก ให้ นศท.ตรวจวัดอุณหภูมิวันละ 3 ครั้ง เช้า เย็น และก่อนนอน

ส่วนกําลังพล พนักงานขับรถ และเจ้าหน้าที่ประกอบเลี้ยง ใหต้ รวจ ATK ทุกๆ 7 วัน สร้างระยะห่างเพื่อลดความแออัด โดยการลดจํานวน นศท.ที่เข้ารับการฝึกใน แต่ละผลัด, จัดหาเต็นท์เพิ่มเติมให้ นศท.ได้พักแรม 1 คนต่อ 1 เต็นท์, จัด นศท.หมุนเวียนเข้ารับการฝึกเป็นกลุ่ม ย่อยๆ, ใช้มาตรการเหลื่อมเวลา เพื่อลดจํานวน นศท.ที่รับประทานอาหารและอาบน้ําในแต่ละห้วงเวลา

นอกจากนี้ยังได้กําหนดให้มีการทําความสะอาดห้องน้ํา เขต สุขาภิบาล, จัดให้มีที่ทิ้งขยะ, มีการใช้แอลกอฮอล์เช็ดถูพื้นผิวที่เป็นจุดสัมผัสร่วมกัน อีกทั้งให้ความสําคัญกับเรื่องการปรุงอาหารสุกใหม่

มาตรการที่ 4 ความปลอดภัยในด้านการประกอบอาหาร : ให้ความสําคัญกับสุขอนามัยของแม่ครัวที่มาประกอบอาหาร (ผ่านการตรวจสุขภาพจากสถานพยาบาล) ใส่ใจความสะอาด สดใหม่ และคุณภาพของวัตถุดิบ รวมถึงความสะอาดของสถานที่ กระบวนการ ประกอบอาหาร

พล.ท.วสุ เจียมสุข ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดงการ (ผบ.นรด. ) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับการฝึกนักศึกษาวิชาทหารว่า หลังจากผ่านช่วงสถานการณ์โควิด19 แล้ว ปีนี้กลับมาฝึกใหม่ จึงได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ตั้งแต่กระบวนการเคลื่อนย้ายนักศึกษาวิชาทหาร ทั้งในเรื่อง คุณภาพของรถขนส่ง พลขับทุกคนจะต้องมีใบอนุญาตในการขับขี่ และเมื่อออกจากต้นทางไปยังปลายทางจะมีการอบรมชี้แจง ทุกคัน

ในส่วนของศูนย์การฝึกได้มีการตรวจสอบ ทบทวนอุปกรณ์ ทุกครั้งและทุกเวลา ก่อนที่นักศึกษาจะมาถึงเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีความพร้อมทุกสถานี ส่วนกรณีที่มีนักศึกษาวิชาทหารเกิดป่วยขึ้นมา ทางเราได้เตรียมรถพยาบาลสแตนด์บายไว้แล้ว

ปีนี้ได้มีการจัดหารถมาใหม่ รวมทั้งอุปกรณ์ประจำรถอย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นของใหม่ทั้งหมดนอกจากนั้น บุคลากรประจำรวมถึงบุคลากรประจำสถานีต่างๆเราได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องความรู้ การช่วยเหลือทางสายการแพทย์ อย่างครบถ้วน

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนและผู้ปกครอง ได้เห็นว่าเราได้เตรียมความพร้อมไว้สูงสุดในการรับนักศึกษาวิชาทหารมาฝึกได้อย่างปลอดภัย และผ่านการฝึกไปได้ทุกคน สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดนั้น นักศึกษาวิชาทหารจะมีการตรวจในส่วนของตนเองมาก่อน

รวมไปถึงครูฝึก ก็อยู่ในพื้นที่ปิดและผ่านการตรวจก่อนเข้าฝึก 2-3 วัน สำหรับครูฝึกที่เปลี่ยนผัดเข้ามาก็ทำอย่างนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักศึกษาก็มีโอกาสที่อาจจะมีการติดเชื้อโควิดได้อยู่ ซึ่งเรามีระบบคัดแยกออกมาที่เตรียมไว้แล้ว จึงไม่ต้องห่วงในเรื่องของการแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่นี้

สำหรับแนวทางการจัดเตรียมอาหารให้สะอาด สดใหม่ในช่วงหน้าร้อนนั้น ผบ.นรด.กล่าวว่า มีการจัดเตรียมอาหารปรุงสุกทุกมื้อ ไม่ใช่ปรุงครั้งเดียวและใช้สามมื้อ ส่วนเจ้าหน้าที่ประกอบอาหารและเสิร์ฟอาหารก็มีมาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันตนเองไม่ให้เชื้อโรคลงไปในอาหาร

นอกจากนั้นในเรื่องสุขลักษณะของเรื่องน้ำดื่ม ได้มีการจัดหาถังเก็บน้ำใหม่ โดยเสริม เครื่องกรองน้ำเข้ามาด้วย เพื่อให้ได้น้ำที่เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคที่สะอาด มีคุณภาพ ส่วนของห้องน้ำก็เช่นกัน ในปัจจุบันเราไม่ได้ให้อาบน้ำจากถังหรือจากอ่างน้ำแล้ว แต่ให้อาบน้ำจากฝักบัว อีกทั้งมีการจัดหาเต็นท์ใหม่เพื่อให้ทุกคนได้นอนเดี่ยว ไม่ต้องนอนแบบบุคคลคู่เหมือนเมื่อก่อน

“นโยบายของผู้บัญชาการทหารบกต้องการให้นักศึกษาวิชาการทหารมีความรู้ รักชาติ รักสถาบัน เป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม เราได้เตรียมทุกอย่างเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้ปกครองและประชาชนว่าจะดูแลน้องๆลูกหลานของพวกเราที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต เข้าไปดูแล บ้านเมือง องค์กรต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างปลอดภัยที่สุด”

เมื่อถามว่า การฝึกครั้งนี้มีการปลูกฝังความคิดเรื่องรักชาติ รักสถาบัน อย่างไรบ้าง พล.ท.วสุ กล่าวว่า วิชาเหล่านี้บรรจุอยู่ในหลักสูตรการฝึกอยู่แล้ว เช่น วิชาประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครองในระบบประชาธิปไตยว่า ควรจะเป็นอย่างไร ขอย้ำว่า ผู้ปกครองไม่ต้องห่วง และสามารถเข้ามาดูที่ศูนย์ฝึกได้ เพราะเราไม่ได้ปิดกั้นในการจะเข้ามาดูแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นรด.เตรียมเสนอแนวทางในการเปิดรับ นศท. เข้าเป็นทหารประจำการ เนื่องจากสถิติพบว่า ปัจจุบันมี นศท.หญิง เข้ามาฝึกในแต่ละปีมากขึ้น คิดเป็นอัตราส่วนถึง 30 % ซึ่งอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีนรด.มีแนวคิดจะเสนอรับ นศท. เข้ารับราชการทหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน