กรมอุทยานฯ จับกุมเวียดนาม ลอบทำไม้กฤษณาข้ามชาติ 171 กก. ติดตามนาน 2 เดือน ชี้มีประวัติล่า ค้าสัตว์ป่าในไทย จ่อส่งเรื่องสำนักงานอัยการสูงสุด รับพิจารณาเป็นคดีนอกราชอาณาจักร

22 มี.ค. 66 – ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้กฤษณาข้ามชาติ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ขสป.) ภูเขียว จ.ชัยภูมิ

นายอรรถพล กล่าวว่า ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลการจับกุมเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 65 โดยชุดลาดตระเวน ขสป.ภูเขียว พบกลุ่มชายต้องสงสัย 4 คน เมื่อแสดงตนขอตรวจค้น กลุ่มชายต้องสงสัยได้รีบหลบหนีไป ตรวจสอบพบชิ้นไม้กฤษณา 64.8 กก. และหนังสือเดินทางของชาวเวียดนาม จ.ก๋วงบินห์ 1 เล่ม

จากนั้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 ลาดตระเวนพบแคมป์ที่พักและร่องรอยการทำไม้กฤษณา จึงดักซุ่มจนสามารถควบคุมผู้ต้องหาไว้ได้ 1 คน ที่เหลืออีก 3 คนหลบหนีไปได้

กรมอุทยานฯ จึงได้ตั้งชุดปฏิบัติการร่วมกัน ระหว่างสำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา ชุดเหยี่ยวดง หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ

โดยการสนับสนุนจากกรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่า สหรัฐอเมริกา (United States Fish and Wildlife Service หรือ FWS) สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (wcs) ประเทศไทย และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ขสป.ภูเขียว เพื่อติดตามขบวนการลักลอบทำไม้กฤษณาที่ยังหลบหนีอยู่อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือนม.ค. 66

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 66 สามารถจับกุมชายเวียดนามพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้หาไม้กฤษณาได้อีก 1 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ชุดปฏิบัติการได้ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยจนสามารถจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้ได้ 6 คน ได้แก่ 1. นาย Dang Hiep 2. นาย Tran Cao Cuong 3. นาย Nguyen Van Binh4. นาย Hoang Van Ba 5. นาย Hoang Van An 6. นาย Hoang Xuan Van

ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม จ.ก๋วงบินห์ และ 1 รายในกลุ่มนี้ เป็นผู้ต้องหาในคดีเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 65 ที่หลบหนีการเข้าควบคุมตัวไปได้ในครั้งนั้นด้วย

โดยยึดของกลางเป็นชิ้นไม้กฤษณา 171 กก. รถยนต์ 2 คัน จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในฐานความผิด 9 ข้อหา ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ เผยข้อมูลอีกว่า กลุ่มเครือข่ายของผู้ต้องหาดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำความผิดรายอื่นในอดีตที่ผ่านมาในไทยด้วย ทั้งคดีล่าและค้าสัตว์ป่าหายาก การทำไม้กฤษณา และไม้มีค่าอื่นๆ

ทั้งนี้ข้อมูลของฝ่ายพัฒนาฐานข้อมูลอาชญากรรมสัตว์ป่า สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย พบว่าตั้งปี 2552 ถึงปัจจุบันมีชาวเวียดนามจาก จ.ก๋วงบินห์ เข้ามาทำไม้กฤษณาและบางส่วนเข้ามาล่าและค้าเสือโคร่งในไทย ถึง 41 ราย และทำไม้กฤษณา ล่าและค้าเสือโคร่งในประเทศมาเลเซียถึง 23 รายด้วยกัน

ดังนั้น เพื่อยกระดับในการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาดำเนินการตามกฎหมาย และทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเข้ามาทำลายทรัพยกรธรรมชาติในประเทศไทย

กรมอุทยานฯ จะมีหนังสือเสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรับพิจารณาเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน