บิ๊กโจ๊ก แถลงปิดคดีน้องต่อ ดำเนินคดีผู้ต้องหา 4 ราย ชี้ไม่พบร่างก็สามารถดำเนินคดีได้ เพราะตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
วันที่ 22 มี.ค. 66 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบชภ. 7 พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.อก.บช.ทท. พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณอยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจกุล ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางหลวง พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันท์.ผกก.ตม.จว.สงขลา พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา
เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายศราวุธ คงยืน ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครปฐม อัยการจังหวัดนครปฐม สหวิชาชีพ กองพิสูจน์หลักฐาน 7 ร่วมกันแถลงสรุปผลการดำเนินคดีเด็กสูญหายพื้นที่ สภ.บางหลวง โดยมีการดำเนินคดีผู้ต้องหา 4 ราย
จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 เวลา 08.30 น. น.ส. นิ่ม อายุ 17 ปี และ นายพุด อายุ 19 ปี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง ภ.จว.นครปฐม ว่า ด.ช.ต่อ อายุ 8 เดือน หายตัวออกจากบ้านไป เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และออกค้นหาตัวน้องต่อ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ตรวจสอบบริเวณภายในบ้านพบหมอนที่มีคราบเลือด รวมทั้งยังได้นำเอาตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาสอบประกอบมากถึง 100 ปาก แต่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม
ต่อมา น.ส.นิ่ม ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนทำน้องต่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ จึงนำร่างไปโยนทิ้งที่แม่น้ำท่าจีน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่ได้ลงตรวจสอบภายในแม่น้ำท่าจีนและขุดลอกแม่น้ำเป็นระยะทาง มากกว่า 10 กิโลเมตร โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และกู้ชีพกู้ภัยตำบลหินมูล เจ้าห้าที่หน่วยประดาน้ำกว่า 140 นาย ที่ผ่านมาปฏิบัติงานกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นิ่ม และพุด รวมทั้งผู้ต้องสงสัยไปตรวจเปรียบเทียบพบว่า ดีเอ็นเอของพุด ไม่ตรงกับน้องต่อ แต่ไปตรงกับลุงแจ้ อายุ 55 ปี จึงได้สืบสวนเพิ่มเติมจนพบข้อเท็จจริงว่า พุด ได้พา นิ่ม ไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ ขายบริการ โดยมีผู้ซื้อบริการอีกจำนวน 1 ราย ได้แก่ นายณัฐวุฒิ อายุ 32 ปี จากผลการสืบสวนทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 ราย
ประกอบด้วย 1. น.ส.นิ่ม อายุ 17 ปี ดำเนินคดีฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความ ตาย , กระทำใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรเสร็จสิ้น และรู้ว่ามิได้มีการกระทำ ความผิดเกิดขึ้นแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน
2. นายสิทธิโชค หรือพุด อายุ 19 ปี ดำเนินคดีฐาน เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อ ไป หรือหาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุ 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไป ชักพาฯ
3. นายสุรชัย แซ่เฮ้ง อายุ 55 ปี ดำเนินคดีฐาน กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยา หรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
4. นายณัฐวุฒิ วิชญพงศ์ อายุ 32 ปี ดำเนินคดีฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไป เสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วยเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการค้นหาตัวน้องต่อนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งจากการให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง รวมทั้งการ พิสูจน์ข้อสงสัยทั้งหมดให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และการตรวจสอบพื้นที่ในวงกว้างทั้งหมดเพื่อค้นหาร่องรอยที่อาจทำให้พบตัวน้องต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามค้นหาและสืบสวนติดตามอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งยังได้สืบสวนขยาย ผลจับกุมในข้อเท็จจริงที่พบเกี่ยวกับการนำเอาแม่น้องต่อไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ จึงได้สั่งดำเนินคดีตาม กฎหมายตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎ
สำหรับการดำเนินคดีของแม่เด็กนั้น สังคมอาจตั้งข้อสงสัยว่า สามารถดำเนินคดีกับแม่เด็กได้หรือไม่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบศพ หรือหลักฐานชิ้นส่วนใดๆ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า วันนี้แถลงข่าวเพื่อปิดคดีและยุติการค้นหา และรวมรวบรวมสำนวนการสอบสวนทั้งหมดส่งต่ออัยการ หลังจากนี้จะเป็นรายละเอียดของสำนวนการสอบสวนซึ่งไม่สามารถกล่าวถึงได้ ส่วนนิ่ม สามารถดำเนินคดีได้เพราะตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เอามารวมในสำนวนการสอบสวน
สำหรับในส่วนของร่างของเด็กอายุวัย 8 เดือน จากคำให้การของแม่เด็กยืนยันเด็กเสียชีวิตแล้ว โดยคาดว่าสัตว์เลื้อยคลานกัดกินร่างหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำสำนวนส่งศาลให้รอบครอบและรัดกุมที่สุด เชื่อว่าสามารถดำเนินคดีได้ แม้จะยังไม่พบศพก็ตาม เพราะพยานหลักฐานมัดตัวแล้ว ทั้งการสอบปากคำ การสื่อสาร รวมไปถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงขอยุติการค้นหาและปิดคดี สำหรับคดีนี้เป็นการสะท้อนของสังคม ภาครัฐ อำเภอและท้องถิ่น กระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะเรื่องเหล่านี้ตำรวจเป็นเพียงแค่ปลายเหตุ