เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พ.ต.ท.เจนภพ บุตรกินรี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยพ.ต.ท.คุณิน ชุ่มจำรัส รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ,พ.ต.ท.อรุณ สุขปาน สวป.ฯ, ชุดสืบสวน, สายตรวจ ต.ทับปริก และทีมสืบสวนสภ.เมือง ทำการปิดล้อมบ้านพักของนางเสน่ห์จันทร์ จันทร์เกิด อายุ 38 ปี ภายในสวนยางพารา ม.1 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ หลังก่อเหตุใช้ปืนยิงนางเพ็ชรนภา เงินทิพ อายุ 49 ปี ชาวต.ควนลัง จ.สงขลา กระสุนถากหน้าแข้งซ้ายกระสุนทะลุขาขวาบาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุพบประชาชนมายืนดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยนางเสน่ห์จันทร์ได้ใช้ปืนยิงข่มขู่เจ้าหน้าที่และไม่ยอมออกมามอบตัว เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเพื่อให้นางเสน่ห์จันทร์ออกมามอบตัวโดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงก็ยังไม่สำเร็จ หลังจากนั้น พ.ต.ท.อรุณ พร้อมอดีตผู้ใหญ่บ้าน ขออาสาเข้าเจราจา โดยพ.ต.ท.อรุณได้ถอดเสื้อเครื่องแบบตำรวจออก ปลดอาวุธปืนและวิทยุสื่อสาร เดินเท้าเข้าไปพบผู้ก่อเหตุ

ต่อมาเมื่อการเจรจาผ่านไปอีก 30 นาทีพบว่านางเสน่ห์จันทร์เริ่มมีอาการใจเย็นลง พ.ต.ท.อรุณจึงโบกมือส่งสัญญา ก่อนใช้จังหวะที่นางเสน่ห์จันทร์เผลอใช้มือกอดรัดตัวเอาไว้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าดูเหตุการณ์ขึงรีบวิ่งกันเข้าไปควบคุมตัว แล้วนำนางเสน่ห์จันทร์ไปค้นหาปืนที่ใช้ยิงนางเพ็ชรนภา จากการตรวจค้นบนที่พักริมลำห้วยพบปืนยาวลูกกรดติดลำกล้องซุกอยู่ในกระเป๋าพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนางเสน่ห์จันทร์พร้อมปืนส่งพนักงานสบอสวนสภ.เมืองกระบี่

จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า นางเพ็ชรนภาได้เดินทางมาเยี่ยมญาติช่วงตรุษจีน ซึ่งญาติมีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินกับผู้ก่อเหตุ ขณะเกิดเหตุนางเสน่ห์จันทร์ได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮเข้าทำการปรับพื้นที่ในบริเวณที่ดินพิพาท ซึ่งนางเพ็ชรนภาได้เข้าไปเฝ้าดูอยู่ห่างๆบริเวณสวนปาล์มน้ำมันห่างจากรถแบ็กโฮประมาณ 50 เมตร ขณะเดียวกันนางเสน่ห์จันทร์ได้ตะโกนสั่งให้ออกไปจากพื้นที่ พร้อมบอกว่าให้รถแบ็กทำงานต่อไปและจะยิงเปิดทางให้ ก่อนเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.อรุณ เปิดเผยว่า สำหรับชนวนเหตุยิงกันครั้งนี้เกิดจากข้อพิพาทเกี่ยวกับถนนสาธารณะทางเข้าบ้านของนางเสน่ห์จันทร์กับฝ่ายของนางเพ็ชรนภา ซึ่งถนนดังกล่าวอยู่บนที่ดินของนางเพ็ชรนภา โดยมีการใช้ร่วมกันมานับ 10 ปี ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าไกล่เกลี่ยเจราจา และทำข้อตกลงด้วยยวาจา ใช้สัญญาใจ แต่ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อมาฝ่ายนางเพ็ชรนภาเกิดเปลี่ยนใจปิดเส้นทาง ไม่ยอมให้นางเสน่ห์จันทร์ใช้เส้นทางดังกล่าว จนวันนี้เกิดเหตุบานปลายยิงกันเกิดขึ้นดังกล่าว

ขณะเดียวกันทราบว่าเมื่อเดือน ม.ค. 2559 นางเสน่ห์จันทร์เคยบุกโรงพักเมืองกระบี่มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยนำน้ำมันเบนซินขู่จะจุดไฟเผาตัวเอง เผารถและโรงพัก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชาร์จตัวไว้ทัน ครั้งนั้นกล่าวหาว่าพนักงานสอบสวนว่าไม่รับแจ้งความ ไม่ทำอะไรเลย ในคดีพิพาทเรื่องที่ดินเช่นกัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีติดงานอีกคดีหนึ่งอยู่ จึงให้นั่งรอก่อน สร้างความไม่พอใจจนเป็นเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมยึดอาวุธปืน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ทำการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน