ยังไงกัน ปลัดอบต. เล่าอีกมุม ป้า เดินกลับ หลังเลิกงาน กว่า 30 กม. ยัน ไม่ได้เป็นพนักงาน เผย บ้านอยู่ห่าง 150 เมตร ด้าน ลูกชาย ระบุ เคยบอกให้เลิกพฤติกรรมนี้

จากกรณีมีการแชร์ภาพหญิงรายหนึ่งและภาพของเด็ก พร้อมระบุข้อความว่า “อบต.ศาลาลอย ที่ทำงานป้าต้องช่วยเหลือแล้วมั้ง ท่านนายกอบต. ไม่รู้เลยรึว่าลูกน้องท่าน ต้องเดินไปกลับจากบ้านมาทำงานกลับ 30 กม. ท่าเรือกับสระบุรีมันไกล มั้ย” จนมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ยังไงกัน ปลัดอบต. เล่าอีกมุม ป้า เดินกลับ หลังเลิกงาน กว่า 30 กม. ยัน ไม่ได้เป็นพนักงาน เผย บ้านอยู่ห่าง 150 เมตร

ยังไงกัน ปลัดอบต. เล่าอีกมุม ป้า เดินกลับ หลังเลิกงาน กว่า 30 กม. ยัน ไม่ได้เป็นพนักงาน เผย บ้านอยู่ห่าง 150 เมตร

ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ อบต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พบกับ นายเสกสันติ สินทรจันทร์ ปลัด อบต.ศาลาลอย เพื่อสอบถามเรื่องราวที่มีการโพสต์ตามโซเชียล โดย นายเสกสันติ กล่าวว่า หญิงที่ปรากฏในภาพคือ นางวรรณา เขจรลาภ อายุ 55 ปี ไม่ได้ทำงานหรือเป็นพนักงานของอบต.ศาลาลอย

นายเสกสันติ กล่าวต่อว่า ทางอบต.เคยจ้างเหมาบริการ เป็นแม่บ้านทำความสะอาดศูนย์พักคอย ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระยะสั้น ๆ เท่านั้น และมีบ้านพักใกล้กับอบต. ห่างประมาณ 150 เมตรเท่านั้น โดยนางวรรณาอยู่กันเป็นครอบครัว มีแม่อายุมากแล้ว 1 คน มีลูกชาย 3 คน อยู่ที่กรุงเทพฯ และ ลูกสาว 1 คนที่ป่วยติดเตียง ทางอบต.ได้ให้ความช่วยเหลือตลอด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือตามขอบเขตอำนาจ

จากนั้น ทางปลัดอบต.ศาลาลอย พร้อมเจ้าหน้าที่ได้พาผู้สื่อข่าวเดินจากอบต.ศาลาลอย ไปบ้านของ นางวรรณา ซึ่งอยู่ด้านหลังอบต.เพียง 150 เมตร เมื่อไปถึงบ้านก็ไม่พบกับนางวรรณา พบเพียงแม่ของ นางวรรณา ส่วนลูกสาวของนางวรรณาที่ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยาได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเนื่องจากหมอนัดรักษาตัว ส่วนนางวรรณาทราบว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าที่ จ.สระบุรี








Advertisement

ด้าน นางจรัสศรี อัศวเดชาชาญยุทธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 กล่าวว่า นางวรรณาไม่ได้ทำงานอยู่ที่อบต.ศาลาลอย และล่าสุดเห็นว่าทำงานอยู่ที่ จ.สระบุรี โดยช่วงเช้าจะเดินทางออกจากบ้านไปขึ้นรถตู้ เพื่อไปทำงาน แต่เวลาช่วงเลิกงานกลางดึกไม่รู้ว่านางวรรณาเดินทางกลับบ้านอย่างไร และทาง อบต.ศาลาลอย รวมทั้ง อสม. ผู้ใหญ่บ้านก็ลงมาดูแล

นางจรัสศรี กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาแต่ไม่ทราบว่า นางวรรณาเดินเท้าจากบ้านไปที่ทำงาน 30 กิโลเมตร จริงหรือไม่ ทั้งที่ก็มีรถรับจ้าง หรือปั่นจักรยานไปทำงานก็ได้ ส่วนตอนนี้ลูกชายของนางวรรณาทั้ง 3 คนก็เคยบอกกับตนว่า บอกแม่ให้เลิกขอความช่วยเหลือ และให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ เพราะทางบ้านไม่ได้ขัดสนขนาดที่ต้องมารับบริจาคตามที่เป็นข่าว

เบื้องต้นทางปลัดและทางเจ้าหน้าที่อบต. และผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกับนางวรรณา เพื่อสอบถาม รายละเอียด แต่ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน