ชาวบ้านทนไม่ไหว โวยถนนใต้ด่วนจอมทอง-บูรณะ เป็นหลุมขนาดใหญ่ไม่ต่างผิวดวงจันทร์ รถ จยย.ล้มกลิ้งแทบทุกวัน
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 สืบเนื่องจากมีผู้โพสต์ข้อความผ่านเพจ แจ้งข่าวสารคนราษฎร์บูรณะ – ประชาอุทิศ ( ทุ่งครุ ) มีใจความน้อยอกน้อยใจพร้อมลงรูปที่มีอาสาสมัครกำลังช่วยกันปฐมพยาบาลคนเจ็บ ซึ่งข้อความระบุว่า ” จะให้มีคนเจ็บหรือคนตายก่อนหรือยังไงถึงจะแก้ไขใต้ทางด่วน พี่แถวบ้านแขนหัก วอนผู้เกี่ยวข้องดูแลด้วยครับ ”
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพถนนที่เกิดเหตุ พบว่าถนนจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณใต้ทางด่วน จอมทอง-บูรณะ ซึ่งเป็นช่วงบริเวณหัวถนนจุดที่จะเลี้ยวออกมุ่งสู่ถนนประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พอดี ตรงบริเวณดังกล่าวเป็นลักษณะถนน 2 เลน วิ่งสวนทางกันได้ทั้งขาเข้าถนนประชาอุทิศ และ ขาออกมุ่งหน้าไปถนน พระรามที่ 2
จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวก็จะพบว่าถนนบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นหลุม ขนาดใหญ่ จำนวนหลายหลุม แผ่ขยายพื้นที่ไปเกือบเต็มบริเวณถนนทั้งสองเลน ถ้าผู้ที่ใช้รถใช้ถนนผ่านไปมาถ้าไม่ทันระวังก็จะตกหลุมดังกล่าวแล้วอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ หรือถ้าเป็นช่วงฝนตกก็จะมีน้ำท่วมขังหลุมดังกล่าวก็จะทำให้มองหลุมไม่เห็นก็จะเกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน และบริเวณถนน ใต้ทางด่วน จอมทอง -บูรณะ ทั้งเส้นในขณะนี้ก็จะมีการก่อสร้างทางด่วนและยังไม่แล้วเสร็จอีกด้วย ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านไปมาทางเส้นทางนี้จึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย
จากการสอบถาม นายสรนัย คงวัฒนา อายุ 45 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างบนถนนเส้นดังกล่าว และยังเคยเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมาแล้วจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำกล่าวว่า ถนนเส้นนี้ตั้งแต่มีการก่อสร้างก็จะเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ ล้มอยู่บ่อยครั้งเหตุเพราะมันมีขี้เลนแล้วก็ไม่มีใครมาฉีดน้ำเพื่อล้างถนนให้ พอเวลาฝนตกก็จะลื่นเพราะการสะสมของฝุ่นดินและทรายที่ตกหล่นอยู่บนพื้นถนน
ส่วนเรื่องค่าชดเชยต่างๆที่ทางไซต์งานบอกว่าจะให้นั้นเท่าที่ตนเองรู้มาก็แค่จ่ายค่ารักษาพยาบาลแต่ตนเองก็ไม่แน่ใจเพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมาก็ไม่เคยได้ติดต่อ ส่วนตอนเวลากลางคืนก็จะมีบางจุดที่มืด และบางจุดก็จะมีน้ำท่วมขัง ก็คือการแก้ไขน้ำท่วมขังของเขาก็จะทำแบบผ่านไปวันๆเท่านั้นเอง โดยไม่ได้แก้ไขโดยที่มันจบเลยไม่มีแล้วยิ่งช่วงหน้าฝนก็ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังอย่างมากเพราะรถใหญ่ที่ผ่านมาในถนนเส้นนี้จะทำให้ดินเลนไหลมาลงถนน
นายจักกฤษณ์ ศรลัมพ์ อายุ 58 ปี ผู้จัดการฝ่าย การปลอดภัย กล่าวว่า ทางบริษัทรับผิดชอบกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยมีทางประกันภัยเข้ามาดูแลเเละรับผิดชอบให้ถ้าเกิดในพื้นที่ของเราก็จะดูแลให้ทุกกรณี ส่วนในเรื่องกรณีที่มีผู้ประสบอุบัติเหตุแขนหักทางบริษัทก็รับเรื่องเอาไว้แล้วและได้ส่งประกันภัยเข้าไปดูแลรับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว ส่วนระยะเวลาในการก่อสร้างทางด่วนเส้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 นี้