นครราชสีมา ชาวบ้านหาผักหวาน หลงป่าทับลานนาน 4 วัน ระดมเจ้าหน้าที่ปูพรม เดินเท้า บินโดรนค้นหาทั้งวันทั้งคืน ยังไร้วี่แวว ผงะพบซากกระทิงถูกเสือกิน กังวลหวั่นผู้สูญหายไม่ปลอดภัย
28 ก.พ. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย ฮุก 31 นครราชสีมา และชาวบ้านกว่า 60 คน ระดมกำลังออกตามหา นายหลงมา ถาดสำโรง อายุ 57 ปี ชาวบ้านกอโจด หมู่ที่ 13 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา
ซึ่งไปอาศัยทำไร่มันสำปะหลัง อยู่บริเวณวัดสังฆทาน ใกล้กับเขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ออกไปหาเก็บผักหวานในเขตป่าอุทยานฯ
ก่อนที่จะหายตัวไปตั้งแต่ 25 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา พบเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้สูญหาย จอดอยู่ที่บริเวณกระท่อมชายป่า ตอนนี้ทางบรรดาญาติพี่น้องของนายหลงมา ได้ยกคนนับสิบพร้อมเสบียงไปตั้งแคมป์เฝ้าค้นหากันตลอดทั้งวันทั้งคืน
โดยเจ้าหน้าที่ใช้กำลังคนออกตามหาทั้งการปูพรมเดินเท้า และใช้โดรนบินเพื่อสังเกตการณ์ทางอากาศมานานกว่า 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แวว ซึ่งทีมค้นหาทีมหนึ่งได้ไปพบเข้ากับซากกระทิงป่าตัวใหญ่ ที่ตายอยู่กลางป่า ห่างจากจุดที่ตั้งแคมป์ไปกว่า 6 กิโลเมตร
ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นกระทิงที่สัตว์นักล่า ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเสือ ล่าและกินเป็นอาหาร เนื่องจากมีร่องรอยการต่อสู้และสภาพศพทุกส่วนยังอยู่ครบ ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ทำการเผาทำลายซากตามขั้นตอน
Advertisement
จากการสอบถามนางสาววิภา ถาดสำโรง ลูกสาวของผู้สูญหาย เล่าให้ฟังว่า ตัวเองได้รับโทรศัพท์จากญาติว่า พ่อของตัวเองหายตัวไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 25 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งติดต่อได้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.พ. 67 จึงพาญาติพี่น้องออกทำการค้นหา แต่ก็ไร้วี่แววจึงประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไร้วี่แวว
นางสาววิภา บอกอีกว่า พ่อของตัวเองนั้นมีความผิดปกติ คือมีอาการคิดมากหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ต้องกินยาคลายเครียดเป็นประจำ อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก และเกือบเสียชีวิตมาแล้ว แต่ก็ยังฟื้นกลับคืนมาได้ ทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องกินยารักษาอาการแทรกซ้อนอีกหลายโรค
ลูกสาวนายหลงมา บอกอีกว่า ก่อนที่จะหายตัวไป มีชาวบ้านพบเห็นและบอกว่า จะเข้าไปหาเก็บผักหวาน ก่อนจะจอดรถทิ้งไว้ที่กระท่อมชายป่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นกลับมาเอารถ จึงคิดว่าน่าจะหายตัวไป จึงพากันออกตามหาดังกล่าว
“ตอนนี้ผ่านมา 4 วันแล้ว แต่ก็มีความหวังว่า พ่อจะยังมีชีวิตอยู่ แม้จะกังวลว่ามีการพบซากกระทิงที่ถูกล่าตายอยู่ในป่าใกล้เคียงก็ตาม เพราะที่ผ่านมาก็มีสัญญาณโทรศัพท์ขึ้นเป็นระยะๆ และล่าสุดเมื่อวานพ่อก็พยายามที่จะโทรติดต่อมาแต่สายก็ตัดไป”
ขณะที่ นายมนตรี ผิวผ่อง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิ ฮุก 31 บอกว่า อุปสรรคในการติดตามหาตัวนายหลงมานั้น เนื่องจากพื้นที่ป่าที่หายตัวไปนั้นมีพื้นที่กว้างและเหมือนกันเกือบทั้งหมด ประกอบกับมีบางจุดถูกไฟไหม้และอากาศร้อนจัด ทำให้โดรนจับความร้อนไม่สามารถแยกจุดความร้อนได้ จึงต้องอาศัยการปูพรมเดินเท้าเพื่อค้นหาเท่านั้น
ตอนนี้ได้มีการระดมกำลังกว่า 60 นายกระจายกันค้นหาอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่พบตัว พบเพียงซากกระทิงที่ถูกสัตว์นักล่าที่คาดว่าน่าจะเป็นเสือล่าและกัดกินเอาไว้ ทำให้เกิดความกังวลต่อความปลอดภัยของผู้สูญหาย เพราะตอนนี้ได้หายตัวไปนานถึง 5 วัน 4 คืนแล้ว
