จากกรณีนายขาน เชิดจอหอ อายุ 48 ปี และนางดวงจิต คณาเขว้า อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ที่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 159/1 หมู่ที่ 1 ตำบลเก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยญาติ พากันเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.คม คุ้มโนนคร้อ รอง ผกก.สอบสวสภ.แก้งคร้อ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มี.ค. เพื่อให้ช่วยติดตามตัวกลุ่มพระสงฆ์ต่างถิ่นที่พากันเดินทางมาอาศัยอยู่ในวัดร้างในหมู่บ้านท่าเว่อ หมู่ที่ 11 ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อ้างตัวเป็นพระเกจิดังมาจากต่างถิ่นและมีวิชาคุณวิเศษว่าช่วยแก้มนต์ดำคนที่ถูกคุณไสย แล้วชักชวนให้นางดวงจิตจากนั้นได้เดินเข้ามาทักนางดวงจิตและบุตรสาววัย 18 ปี ว่าถูกคุณไสยมนต์ดำ ถ้าอยากให้บุตรสาวหายจากการถูกคนเล่นของไม่หวังดีเสกของมนต์ดำใส่ครั้งนี้ได้ โดยชักชวนให้ครอบครัวและบุตรสาวเข้าทำพิธีดื่มน้ำมนต์ที่พระกลุ่มนี้ทำขึ้นให้หมดจำนวนเต็ม 2 บาตรพระ ก่อนที่บุตรสาวจะเริ่มมีอาการอาเจียนออกมาตลอดไม่หยุด จนมีอาการล้มชักตัวเกร็งจนช็อกหมดและสติเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ก่อนที่พระกลุ่มนี้จะพากันหลบหนีหายออกจากวัดไปล่าสุดวันที่ 31 มี.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เร่งลงพื้นที่จนสามารถรู้ตัว 1 ในกลุ่มพระ 3 รูปดังกล่าวแล้ว มีฉายาว่าพระโล้น และพระน้อย หรือพระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นพระที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกลุ่มด้วย โดยพบว่าเป็นพระอยู่วัดในเขตพื้นที่ใกล้เคียงของ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และเป็นชาว ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งขณะนี้ได้ติดต่อไปทางญาติพระรูปนี้แล้วว่าให้เร่งติดต่อพามาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก้งคร้อ โดยเร็ว หากยังไม่มาจะต้องออกหมายเรียกและหมายจับตามขั้นตอนต่อไปสำหรับกลุ่มพระต่างถิ่นดังกล่าวหลังเกิดเหตุได้แยกกันหลบหนีเดินธุดงค์ไปกบดานอยู่ที่ จ.เลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทราบที่อยู่ทั้งหมดแล้ว และอยากให้รีบเข้าพบพนักงานสอบสวนโดยเร็ว เจ้าหน้าที่พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเข้ามาชี้แจงว่าสิ่งที่ทำมีการใส่อะไรลงไปประกอบในการทำน้ำมนต์ จนเป็นเหตุให้สาว 18 ปีดื่มจนเสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน