อาลัย ส.ต.ท. เข้าช่วยอุบัติเหตุกลางถนน หลังออกเวร ถูกกระบะพุ่งชนเสียชีวิต พ่อเล่าทั้งน้ำตา อยากให้ลูกเป็นนายร้อย มีวันนี้ได้เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรณีสืบเนื่องกลุ่มไลน์ตำรวจเมืองเลย เผยแพร่ภาพและไว้อาลัย ส.ต.ท.ปฏิภาณ อุทธบูรณ์ หรือเหินฟ้า อายุ 28 ปี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ภูเรือ จ.เลย ที่ลงไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ขณะที่ออกเวร จู่ๆ มีรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนจนบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่ รพ.เลย เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 01.00 น. สร้างความเศร้าโศกเสียใจต่อครอบครัว ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนตำรวจ
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ ส.ต.ท.ปฏิภาณ ที่บ้านโนนสว่าง ต.หนองคัน อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีทางศาสนา พบกับ ร.ต.อ.กิตติ อุทธบูรณ์ รอง สวป.สภ.ภูหลวง จ.เลย พ่อของน้องเหินฟ้า ยังอยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจ ต่อการจากไปของลูกชาย
ร.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า ส.ต.ท.ปฏิภาณ อุทธบูรณ์ หรือ น้องเหินฟ้า เป็นลูกชายคนโต ในจำนวนพี่น้องที่เป็นผู้ชายทั้งหมด 3 คน รับราชการเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.ภูเรือ หลังออกเวร ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 17 ส.ค.67 ลูกชายไปกับเพื่อน เพื่อไปหาเพื่อนใน อ.เมืองเลย ขากลับเห็นอุบัติเหตุบนถนนเลย-เชียงคาน ขาออกเมือง กลัวจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน จึงลงจากรถไปช่วยเหลือ
ซึ่งขณะนั้นร้อยเวร สภ.เมืองเลย ยังมาไม่ถึงที่เกิดเหตุ ลูกชายและเพื่อนจึงเดินไปเอากรวยยางวางเป็นเครื่องหมาย ให้สัญญาณกับรถที่สัญจร รถระหว่างนั้นมีรถกระบะขับมาด้วยความเร็ว ชนลูกชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยฯ รีบนำตัวส่ง รพ.เลย แพทย์ให้ญาติทำใจ ก่อนที่ลูกชายเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 03.25 น. ของคืนวันที่ 17 ส.ค.
คุณพ่อเล่าทั้งน้ำตาว่า การสูญเสียลูกชายครั้งนี้ ทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้ เมื่อนึกถึงความมีน้ำใจและความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตลอดเวลา
“ผมเป็นตำรวจ อยากให้ลูกชายเป็นตำรวจ ผมสอนลูกตลอดเวลาว่า พ่อเติบโตมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะได้เงินมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นหม้อข้าวหม้อแกงให้พ่อ ดูแลลูกส่งเสียให้ลูกเรียน ผมมีความตั้งใจว่า อยากให้ลูกเป็นตำรวจเหมือนพ่อ มีประกาศสอบที่ไหนก็พาลูกไปตลอด
พอลูกสอบได้ รับราชการแล้ว ตั้งใจว่าอยากให้ลูกเป็นนายร้อย ก็ให้ลูกเลือกลงตำแหน่งที่ รร.นายร้อยตำรวจสามพราน อยู่ที่กองรักษาการณ์ที่โรงเรียนนายร้อย คราวนี้ระหว่างที่ลูกรับราชการที่โรงเรียนนายร้อย สอบ 2 ครั้งไม่ได้ จึงบอกลูกว่ากลับมาบ้าน พ่อจะใกล้เกษียณแล้ว กลับบ้านเรา ซึ่งลูกชายก็ขอย้ายมาที่สภ.ภูเรือ จ.เลย จนกระทั่งมาถูกรถชนจนเสียชีวิต” ร.ต.อ.กิตติ กล่าว
ส่วนคู่กรณีที่ขับรถกระบะชนลูกชาย มาร่วมงานศพแสดงความเสียใจ แต่ยังไม่พูดคุยเรื่องการช่วยเหลือแต่อย่างใด ทั้งนี้พิธีทางศาสนา ที่บ้านกำหนด 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-21 ส.ค.67 และจะมีพิธีฌาปนกิจศพที่วัดสันติธรรมาราม บ้านหนองคัน ต.หนองคัน อ.ภูหลวง
ส่วนทางคดี พงส.สภ.เมืองเลย เรียกคนขับรถกระบะมารับทราบข้อกล่าวหา “ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต” และจะสอบปากคำเพิ่ม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กสำนักงานตำรวจแแห่งชาติ โพสต์ข้อความแสดงการอาลัยในการสูญเสียครั้งนี้ด้วย