เปิดใจ ป้าตกท่อ หน้าบ้าน เล่า 30 นาทีสุดวิกฤตรอคนช่วย สติหลุด เผยเรื่องที่คิด ตอนนี้เห็นฝาท่อยังผวาอยู่ เปิดผลตรวจร่างกาย ขอบคุณสาวพลเมืองดีโดดลงไปช่วย

จากกรณี นางวิภารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เดินต่อท่อระบายน้ำ ริมถนนเศรษฐกิจ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งอยู่ใกล้กับหน้าบ้านของตนเอง จนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย ซึ่งท่อระบายน้ำมีความกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกจากพื้นถนนลงไปประมาณ 2 เมตร ระดับน้ำในท่อสูงเกือบ 1 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าหลังเกิดเหตุทางเทศบาลนครสมุทรสาคร ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นไว้โดยรอบ ส่วนช่องที่แผ่นปูนแตกหักลงไปพร้อมกับผู้บาดเจ็บนั้น ได้มีการนำแผ่นไม้กระดาน 3 แผ่นมาวางปิดไว้ก่อน เพื่อรอการซ่อมแซมต่อไป

เปิดใจ ป้าตกท่อ หน้าบ้าน เล่า 30 นาทีสุดวิกฤตรอคนช่วย สติหลุด เผยเรื่องที่คิด ตอนนี้เห็นฝาท่อยังผวาอยู่ เปิดผลตรวจร่างกาย ขอบคุณสาวพลเมืองดีโดดลงไปช่วย

เปิดใจ ป้าตกท่อ หน้าบ้าน เล่า 30 นาทีสุดวิกฤตรอคนช่วย สติหลุด เผยเรื่องที่คิด ตอนนี้เห็นฝาท่อยังผวาอยู่ เปิดผลตรวจร่างกาย ขอบคุณสาวพลเมืองดีโดดลงไปช่วย

นางวิภารัตน์ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนเดินผ่านที่เกิดเหตุทุกวัน ทั้งเอาขยะไปทิ้งตรงถังขยะที่ตั้งอยู่ติดกับฝาท่อ และไปซื้อของร้านใกล้บ้าน วันเกิดเหตุตนเดินออกไปซื้อของ ซึ่งก็ต้องเดินผ่านตรงท่อระบายน้ำนั่นแหละ ตอนเดินไปก็ไม่มีอะไร แต่พอเดินกลับมาก็เดินทางเดิมเพราะเป็นทางผ่านเข้าบ้านตน

นางวิภารัตน์ กล่าวต่อว่า พอเหยียบลงไปบนแผ่นปูนที่อยู่ตรงกลาง ปรากฏว่าฝาท่อยุบลงไปทันทีพร้อมตัวเอง ทำให้ตกลงไปนั่งจุกลุกไม่ขึ้น ส่วนแผ่นปูนก็แตกอยู่ข้างใต้นั่นเอง ซึ่งหากเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา มีระดับน้ำสูงขึ้นมาอีก ตนเชื่อว่าอาจจะเสียชีวิตได้

นางวิภารัตน์ กล่าวอีกว่า ตนได้ร้องให้คนช่วยก็ไม่มีใครได้ยิน จะปีนขึ้นมาเองก็ลุกไม่ไหว จึงต้องนั่งอยู่ในนั้นนานกว่า 30 นาที จึงมีคนผ่านมาเห็นและได้เรียกคนมาช่วย ในวินาทีที่นั่งรอคนผ่านมาเจอนั้น ก็คิดแค่ว่าถ้าหากตายไปทางครอบครัวจะเป็นอย่างไร ใครจะดูแล เพราะสามีก็ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ส่วนลูกชายฝาแฝดคนหนึ่งก็เรียนอยู่ อีกคนมีปัญหาทางการได้ยิน

นางวิภารัตน์ กล่าวด้วยว่า ตอนนั้นนอกจากร่างกายจะบาดเจ็บแล้ว สติก็แทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดไปต่าง ๆ นานา แต่ก็ถือว่าบุญที่ทำมายังช่วยให้ตนรอดพ้นจากนาทีวิกฤตนี้มาได้ ตอนนี้ก็ยังมีอาการวิตกกังวลอยู่ พอออกมาเห็นฝาท่อก็รู้สึกผวาอยู่เหมือนกัน

นางวิภารัตน์ กล่าวว่า ขณะที่อาการบาดเจ็บก็มีรอยฟกช้ำที่หลังและรอยบาดแผลขีดข่วนที่แขน โดยแพทย์ที่ให้การตรวจรักษาระบุว่า มีอาการฟกช้ำค่อนข้างหนักแต่ไม่มีเลือดคั่งภายใน ซึ่งแม้จะทำให้สบายใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังกังวลกับผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดตามมา เพราะตนเองมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค

นางวิภารัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางเทศบาลนั้น ในวันเกิดเหตุรองนายกฯ เทศมนตรีก็เดินทางไปดูแลที่โรงพยาบาล และต่อมาเทศบาลก็ติดต่อว่า จะเข้ามาเยี่ยมในวันนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุเวลาและยังไม่มีการพูดคุยอะไรกันถึงเรื่องการเยียวยา

นางวิภารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ผู้บาดเจ็บ

นางวิภารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ผู้บาดเจ็บ

นางวิภารัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากฝากไปยังผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นโชคดีที่ตนรอดมาได้ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ถ้าเป็นเด็กก็อาจจะเกิดความสูญเสียได้

ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ดังนั้นหากมีการซ่อมแซมหรือทำอะไรที่จะเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน ก็ควรจะต้องป้ายเตือน หรือวางที่กั้นเตือนให้ประชาชนทราบ จะได้ไม่เกิดเหตุแบบนี้อีก พร้อมขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีไหวพริบกับการแก้ปัญหาช่วยผู้บาดเจ็บได้ดีมาก รวมถึงหญิงสาวพลเมืองดีคนหนึ่งที่โดดลงไปช่วยตนในท่อระบายน้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน