เพชรบูรณ์ สมาคมพืชไร่จังหวัด ประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งจังหวัด เหตุโรงงานอาหารสัตว์กดราคารับซื้อ ชาวไร่โอด ขาดทุน-หนี้ท่วม ประสบปัญหาราคาตกต่ำ วอนรัฐช่วย “ไม่ช่วยตายแน่”
10 ก.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมพืชจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ออกประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 11 – 15 ก.ย. 67 หลังโรงงานอาหารสัตว์กดราคารับซื้อต่อเนื่องติดต่อกันมากว่าสัปดาห์แล้ว และไม่มีทีท่าจะขยับขึ้นแต่อย่างใด
ส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดที่ปัจจุบันประสบกับปัญหาราคาตกต่ำอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอการหยุดรับซื้อทำให้ยิ่งเดือดร้อนหนักมากขึ้นกว่าเดิม
นางเม้ย ชินสี อายุ 64 ปี เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพด ต.ห้วยใหญ่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ตนเช่าที่ดินปลูกข้าวโพดจำนวน 100 ไร่ ลงทุนไปแล้วกว่า 4 แสนบาท ทั้งค่าพันธุ์ ค่ายา ค่าปุ๋ย ปัจจุบันเป็นหนี้ ธ.ก.ส.กว่า 2 ล้านบาท
วันนี้เป็นวันแรกที่เก็บเกี่ยวข้าวโพด โดยเมื่อไปถึงลานปรากฏว่า ได้ราคาเพียง 6.30 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น และยิ่งมาเจอการประกาศหยุดซื้อของลานตาก ตนก็ไม่รู้ว่าราคามันจะลดลงไปมากกว่านี้อีกเท่าไหร่
แรกทีเดียวที่ตนไปสอบถามราคาที่ลานตก เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอยู่ที่ราคา 7.90 บาท ซึ่งตนก็เห็นว่า พอที่จะมีกำไรบ้าง แต่ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันที่รอรถเกี่ยวมาจนถึงวันนี้ราคาลดลงเหลือ 6.30 บาท และหากลดลงไปกว่านี้ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน
ตนจึงอยากจะให้รัฐบาลเร่งให้การช่วยเหลือเกษตรกรโดยด่วน อีกทั้งอยากให้รัฐบาลระงับการนำเข้าข้าวโพด ข้าวสาลีรวมทั้งพื้นอาหารสัตว์จากต่างประเทศ เพื่อที่จะทำให้ราคาข้าวโพดกระเตื้องขึ้น ไม่เช่นนั้นชาวไร่ต้องตายแน่ๆ
ด้านนายเทพ เพียมะลัง ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ปัญหาข้าวโพดราคาตกต่ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดจากมีการนำข้าวโพดจากต่างประเทศเข้ามาตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากข้าวโพดภายในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการผลิตอาหารสัตว์
รวมทั้งจากสภาวะโลกร้อนทำให้ พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เกิดสภาวะภัยแล้ง ทำให้การปลูกข้าวโพดล่าช้าไปหนึ่งเดือน ทั้งผลผลิตออกตรงช่วงฤดูฝนและตรงกับพื้นที่อื่น รวมทั้งปัญหาของเกษตรกรเร่งในการเก็บเกี่ยว ทำให้คุณภาพของข้าวโพดนั้นมีคุณภาพต่ำ และต้องใช้ระยะเวลาในการอบซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย
จากกรณีสมาคมพืชไร่จังหวัดเพชรบูรณ์ประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งจังหวัด สภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ประชุมหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยได้ข้อสรุปกล่าวคือ ขอให้โรงงานรักษาเสถียรภาพด้านราคาให้คงที่ และมีความเป็นธรรมต่อเกษตรกร รัฐบาลต้องมีนโยบายการประกันราคาสำหรับข้าวโพดสดที่เกษตรกรขายไม่ใช่ประกันราคา
เฉพาะส่วนของข้าวโพดแห้ง ต้องงดการนำเข้าในฤดูกาลข้าวโพดปกติภายในประเทศ และควบคุมมาตรการการนำเข้า 3:1 ตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรส่งเสริมให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวโพดให้ครบอายุเพื่อให้ข้าวโพดมีคุณภาพที่ดี
ส่วนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ประสานงานไปกับ สส. ในพื้นที่ เพื่อให้ช่วยดำเนินการหาวิธีการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรรวมทั้งประสานไปที่ สว.ทางการเกษตร ให้ช่วยประสานงาน อธิบดีกรมการค้าภายในเพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป
