กลิ่นเน่าโชยนานหลายวัน เพื่อนบ้านเดินตามหาไม่เจอ สงสัยกลิ่นมาจากข้างบ้าน ญาติงัดประตูเจอศพ ตายเปลือย หลังหายตัวข้ามสัปดาห์ เชื่อวิญญาณมาเรียกให้เจอ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ย.67 ร.ต.ท.ณัฐวัตร ละดาวัลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตในบ้านพักหลายวัน จนส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมานอกบริเวณบ้าน เหตุเกิดอยู่ในบ้านพัก บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เบื้องต้นญาติและเพื่อนบ้าน ช่วยกันงัดประตูเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ที่บริเวณพื้นด้านในโถงบ้าน พบร่างนายธนกฤต อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน อยู่ในสภาพเปลือยกาย ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ในบ้านและนอกบ้านไม่ร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ โดยนายอัมพร พ่อผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาที่เกิดเหตุ จุดธูปเรียกดวงวิญญาณลูกชายกลับบ้านเกิดด้วยความโศกเศร้า

นางสุวรรณณี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ได้กลิ่นเหม็นเน่ามาหลายวันแล้ว ตอนแรกคิดว่าเป็นกลิ่นเหม็นยางจากโรงงานยางแท่งที่อยู่ห่างไปประมาณ 10 กม. เมื่อเช้านี้สามีออกมาล้างรถอยู่บ้าน ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง คิดไปอีกว่าเป็นกลิ่นจากถังขยะหน้าบ้าน จึงล้างถังขยะ แต่กลิ่นก็ยังไม่หาย

เป็นจังหวะที่ญาติของผู้เสียชีวิตมาที่บ้านหลังดังกล่าว จึงพากันเข้าไปดูในบ้าน เดินรอบบ้านก็ไม่เห็นใคร ไฟหน้าบ้านและนอกบ้านก็เปิดอยู่ พองัดประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายออกมาทันที และเห็นร่างผู้เสียชีวิต จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

“ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว เคยเห็นมีภรรยามาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่เห็นนานแล้ว ผู้เสียชีวิตไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ทราบแค่ว่าป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เคยเลี้ยงหมาไว้ 1 ตัว เมื่อเขาเปิดประตูบ้านออกไปทำธุระ หมาก็จะวิ่งเข้ามาในบ้านตน ซึ่งก็ไม่ได้ยินเสียงหมาเห่ามานานแล้ว แล้วก็ไม่เห็นผู้เสียชีวิตมาสักพักเช่นกัน

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเสียชีวิตในบ้าน พอรู้ว่าเกิดเหตุตกใจและขนลุกมาก เพราะตอนเดินเข้าในบริเวณบ้าน กลิ่นเหม็นเหมือนช่วงหลายวันที่ผ่านมา คิดว่าเขาคงจะมาสื่อสารให้รู้ ว่าเสียชีวิตในบ้าน เป็นกลิ่นเหม็นที่ได้กลิ่นมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา และ 2-3 วันก่อน ช่วงประมาณตี 2 ได้ยินเสียงคนเรียก เสียงคุยกันอยู่หน้าบ้าน คิดแล้วยังขนหัวลุกไม่หาย” นางสุวรรณณี กล่าว

นางสุมารัตน์ น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายมีอาชีพขายตรง เลิกกับภรรยาอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ลูกสาว 2 คนก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯและต่างประเทศ ที่ผ่านมาพี่ชายจะติดต่อกับตนทางไลน์ พูดคุยกันทุกเดือน และหากจะหายไปก็ไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะโทรติดต่อกลับมา เพิ่งอวยพรวันเกิดพี่ชายไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เขาก็ยังอ่านข้อความและโทรกลับมาอยู่ ก่อนวันเกิดพี่ชายก็ยังไปหาพ่อที่บ้าน อ.กุมภวาปี ยังอุ่นใจอยู่ว่าพี่ชายยังอยู่สุขสบายดี

“เอะใจอยู่ว่าทำไมติดต่อพี่ชายไม่ได้มา 1 สัปดาห์แล้ว ญาติคนอื่นโทรไปก็ไม่รับ ข้อความก็ไม่อ่าน ตั้งใจว่าหลังวันที่ 25 ก.ย. หลังได้เงินดิจิทัล จะมาที่บ้านหลังนี้ แต่ลูกสาวพี่ชายโทรมาหาบอกว่าเป็นห่วงพ่อ ติดต่อพ่อไม่ได้หลายวันแล้ว วันนี้จึงชวนญาติคนอื่นและพ่อมาด้วย เพราะรู้สึกใจไม่ดี เมื่อมาถึงแล้ว เปิดบ้านเข้าไป จนได้กลิ่นเหม็นเน่าก็รู้ทันทีว่าพี่เสียชีวิตแน่นอนแล้ว พี่ชายป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบมานาน ถามไถ่อาการป่วยกันเป็นประจำ แต่ก็ได้รับข่าวร้ายจนได้” นางสุมารัตน์ กล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าผู้เสียชีวิตมีอาการโรคประจำตัวกำเริบ ขณะเกิดเหตุอยู่ลำพังในบ้าน ไม่มีใครพบเห็น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จนเสียชีวิตในที่สุด ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้อาสากู้ภัยฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

ที่มา มติชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน