วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการขุดพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณ ขณะขุดลอกแหล่งน้ำที่บึงวัดป่า หมู่ 4 ต.ท่านั่ง อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่มีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร มีชาวบ้านจำนวนมากพากันแตกตื่นแห่กันมาดูบริเวณปากถ้ำ 3 จุด โดยพบวัตถุโบราณ มีทั้งแจกัน ถ้วย โถ เชื่อว่าน่าจะมีอายุกว่า 900 ปี หลังจากที่มีผู้รับเหมาได้ใช้รถแบคโฮขุดอ่างเก็บน้ำที่บริเวณดังกล่าว ลึกไปประมาณ 1.5 เมตร ก็ไปเจอปากถ้ำ 3 จุด ลักษณะคล้ายเตาโบราณ พร้อมวัตถุโบราณดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีคนโบราณมาเข้าฝันคนขับรถแบคโฮหลังจากขุดเจอถ้ำดังกล่าว และบอกว่าอย่างเพิ่งขุดรอขนของออกจากถ้ำก่อน ทำให้ผู้รับเหมาต้องย้ายไปขุดบริเวณอื่น

ขณะเดียวกันชาวบ้านกลัวเรื่องลี้ลับเนื่องจากเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวเป็นเมืองลับแลที่บอกเล่ากันมาตั้งแต่อดีต ชาวบ้านจึงได้นำธูปเทียนมากราบไหว้ตามความเชื่อ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเนื่องจากเมื่อนำไปเปรียบเทียบลักษณะใกล้เคียงกับศิลปะยุคบ้านปูน จ.สุพรรณบุรี อายุกว่า 900 ปี ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าของชุมชนและของประเทศ

จากการบอกเล่าของชาวบ้าน เชื่อกันว่าบริเวณนี้เป็นเมืองลับแลเก่า ชาวบ้านเคยได้ยินเสียงมโหรี ปี่พาทย์ หรือระฆัง ประกอบกับมีชาวบ้านในตำบล 2-3 คน เคยหายตัวไปถึง 7 วัน แล้วกลับมา บอกเล่าว่าที่บริเวณดังกล่าวเป็นเมืองลับ และมีคนโบราณเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงขากลับจะให้น้อยหน่า ขมิ้น มะนาว และทองคำ ปรากฏว่าชาวบ้านที่หลงทางไม่เอาสิ่งของที่คนโบราณให้ จึงโยนทิ้งเนื่องจากกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตถ้าเอากลับมา นอกจากนี้วันดีคืนดีจะเห็นหมาป่าออกมาจากถ้ำเป็นจำนวนมาก

ด้านนางนงคราญ ทองน้อย อายุ 56 ปี ชาว ต.ท่านั่ง อ.โพทะเล จ.พิจิตร กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน ได้มีผู้รับเหมาเข้ามาขุดลอกบึงเพื่อทำอ่างเก็บน้ำ โดยผู้รับเหมาใช้แบคโฮขุดลอกบึงที่บริเวณดังกล่าวไป เจอปากอุโมงถ้ำ 3 จุด พร้อมกับเครื่องโบราณ ที่เป็นโถน้ำ แจกัน ถ้วยชาม ซึ่งน่าจะมีอายุกว่า 900 ปี ซึ่งที่บริเวณนี้ชาวบ้านเรียกว่าเมืองลับแล โดยเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ได้มี นายสังเวียน ซึ่งเป็นคน ต.ท่านั่ง หายไป 7 คืน ปรากฏว่ากลับมาบ้านแล้วเล่าให้ชาวบ้าน-ลูกหลานฟัง ว่าไม่ได้หายไปไหน แต่ไปเจอเมืองลับแลมา เจอคนโบราณมากมาย ขากลับยังห่อของใส่ผ้าขาวม้าให้มา ขณะเดินกลับเปิดดูพบว่าเป็นขมิ้นจึงโยนทิ้ง เพราะคิดที่บ้านมีมากมาย พอกับมาดูอีกครั้งไม่พบแล้ว และไม่เห็นปากอุโมงค์ถ้ำแล้ว ตนเชื่อว่าเป็นเมืองลับแลจริงเพราะเคยได้ยินเสียงมโหรีมาแล้ว

ทางด้าน นายนภัทร รอดเริญ กล่าวว่า บริเวณนี้น่าจะเป็นเมืองลับแล เนื่องจากสมัยก่อนมีการต้มเหล้าจะต้องมาจุดธูป บอกกล่าวที่นี่ถ้าใครหาบเหล้าผ่านบริเวณนี้จะผ่านได้ หากไม่จุดธูปบอกกล่าวไหเหล้าที่หาบก็แตก นอกจากนี้ยังพบความอาถรรพ์ในหมู่บ้านจะได้ยินเสียงมโหรี ปี่พาทย์ ซึ่งน่ากลัวมาก สำหรับบริเวณบึงน้ำซึ่งพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ในอดีตที่ชาวบ้านเรียกว่า บึงวัดป่า เนื่องจากมีวัดเก่าที่ล้างไปแล้วตั้งอยู่ห่างจากจุดที่พบเครื่องปั้นดินเผาประมาณ 1 กิโลเมตร ชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนมีความเชื่อว่าบริเวณพบเครื่องปั้นดินเผาเป็นเมืองลับแล การขุดพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณจึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติตั้งแต่อดีตหลายอย่าง เช่น มีผู้ได้ยินเสียงบรรเลงดนตรีไทย มีผู้เคยหายไปในเมืองลับแล ชาวบ้านในพื้นที่จึงมีความเชื่อที่ไม่คิดจะหลบหลู่แต่ก็อยากให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพราะหากเป็นของเก่าจริงก็จะทรงคุณค่ากับชมชนและประเทศชาติต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน