อุดรธานี จีวรบินหนีแทบไม่ทัน พระสงฆ์แตกตื่น หนุ่มเมากร่างขับรถไถชนทำลายทรัพย์สิน วัดพังยับ รู้สาเหตุสุดฉงน โยมถวายที่ดินแล้วเปลี่ยนใจอยากขายที่ เรื่องยังเคลียร์ไม่จบ
18 พ.ย. 67 – ที่สภ.เมืองอุดรธานี พระสมชาย เสริฐศรี อายุ 49 ปี พระสำนักสงฆ์ประทีปแก้ว บ้านจำปา หมู่ 7 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี เดินทางมาแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิงจุฑามาศ เกื้อสกุล รอง สว(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี
หลังจากมีโยมในหมู่บ้านขับรถไถเข้าไปในสำนักสงฆ์ ทำลายทรัพย์สินทั้งรั้ววัด เสาไฟฟ้า และโรงรถจอดรถ พระในสำนักสงฆ์พากันแตกตื่นหอบจีวรหนีแทบไม่ทัน โดยดูอาการโยมที่ขับรถไถท่าจะเมาหลุดโลกอาละวาดและตะโกนด่าพระลั่น วันนี้จึงมาแจ้งความตำรวจ หากตร.ไม่ยอมออกไปที่สำนักสงฆ์จะไม่ยอมกลับ
พร้อมกันนี้ได้นำคลิปวิดีโอที่ถ่ายเหตุการณ์ขณะที่หนุ่มเมาขับรถไถทำลายทรัพย์สินภายในสำนักสงฆ์ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยในคลิปจะได้เห็นชายคนหนึ่งขับรถไถทราบชื่อคือนายตุ๊ก หรือนายทวีโชค พวงกันยา และพ่อของนายตุ๊กคือนายสถิต เข้ามาภายในสำนักสงฆ์ และบอกพระหนีออกให้ไกลๆ จะไถจะดันทรัพย์สินภายในวัดให้พังหมด ในคลิปจะได้ยินเสียงของพระสมชาย อย่าทำๆ บอกเราแหน่ อย่าทำแบบนี้
ขณะที่ นายตุ๊กและนายสถิต พ่อของนายตุ๊ก ที่เข้ามาในวัดก็ไม่สน นายตุ๊กก็ขับรถไถเข้ามาพังทำลายทรัพย์สินจนพังยับเยิน ด้านนายตุ๊กคนขับรถไถก็โวยวายกับพระในสำนักสงฆ์ พวกเจ้าโกงข้อย มีปัญหาอะไรกับพวกผม คำพูดคนเกินใจจะรับได้ แต่ก่อนผมมาช่วยวัดทุกอย่าง ผมไม่คุยแล้วคืนนี้ ตอนเช้าค่อยคุยกัน
จากนั้นนายตุ๊กก็ไม่ยอมฟังคำเตือนของพระ ยังขับรถไถชนทำลายทรัพย์สินภายในวัด โดยหลวงพ่อบอกว่ามีปัญหากับครอบครัวนี้ ขับรถไถมาทำลายภายในสำนักสงฆ์หลายครั้งแล้ว พระก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะดูเมาหลุดโลก
พระสมชาย บอกกับนักข่าวว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น.ของวันที่ 17 พ.ย.67 ได้มีชายในหมู่บ้านใกล้กับสำนักสงฆ์ขับรถไถพ่วงด้วยสาลี่เข้ามาพังรั้ว เสาไฟฟ้า โรงจอดรถ และต้นไม้ภายในสำนักสงฆ์จนพังยับเยิน ตอนแรกอาตมาก็ตกใจ ตื่นขึ้นมา รีบเข้าไปห้ามปราม แต่โยมที่ขับรถไถก็ไม่ยอมฟัง ท่าจะเมาหนัก ยังขับรถไถทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าไปหมด มีทรัพย์สินเสียหายไปหลายอย่าง
ยอมรับตกใจไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่ห้ามปราม โยมที่ขับรถไถก็ขับชนดะทุกอย่างที่ขวางหน้า อาตมาได้แต่บอกว่า อย่าไถอย่าทำ แต่ไม่ฟัง วันนี้อาตมาและพระในวัด จึงมาแจ้งความ ตร. หากตร.ไม่ไปที่เกิดเหตุจะไม่ยอมกลับวัด เพราะกลัวอันตราย
ส่วนสาเหตุคิดว่า เกิดจากโยมครอบครัวนี้ แต่ก่อนถวายที่ให้สำนักสงฆ์ จากนั้นก็เปลี่ยนใจอยากขายที่ให้ ทางสำนักสงฆ์ก็ทยอยจ่ายเกือบหมดแล้ว แต่อยากได้เงินเพิ่ม ทางอาตมาก็ให้เอาหลักฐานมาแสดงให้เห็น แต่ทางโยมไม่เอา จนเกิดเรื่องเกิดราว เมื่อหลายเดือนก่อน เคยบุกมาทำลายทรัพย์สินภายในวัดมาแล้ว
ต่อมา เวลา 15.00 น. ร.ต.อ.หญิงจุฑามาศ เกื้อสกุล จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เป็นสำนักสงฆ์วัดประทีปแก้วบ้านจำปา เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของรถไถไถเสารั้ววัดเสียหายประมาณ 4-5 ต้น พัง และและต้นไม้ภายในสำนักสงฆ์ถูกรถไถพัง จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะได้ติดตามคนก่อเหตุมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่คนก่อเหตุก็ยังขับรถไถขนข้าวอยู่ใกล้ๆ วัดนั่นเอง คนขับก็มองมาที่วัดอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่สนใจดูท่าเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แม่ชีจ๋อย อายุ 67 ปี บอกว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงรถไถเข้ามา เสียงปุ๊กปั๊กๆ เหมือนรถมาเกรดหรือมาไถอะไร จากนั้นได้ยินเสียงโวยวาย เราเป็นผู้หญิงก็ไม่กล้าออกมา ส่วนจะมีปัญหาอะไรนั้น ไม่ทราบจริงๆ แต่ เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะทำ อยู่ด้วยกันไม่น่าจะทำแบบนี้ ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่า