เปิดใจหลวงพี่น้ำฝน หลังลูกศิษย์ไปร่วมก่อเหตุทำร้ายพระปีนเสา ไม่เคยส่งเสริมการใช้ความรุนแรง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังใคร ตอนนี้เรียกมาตักเตือนแล้ว

วันที่ 23 พ.ย. 67 ที่วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ออกมาเปิดเผย กรณีลูกศิษย์ร่วมก่อเหตุทำร้าย พระปลัดธีระ หรือพระปีนเสา ระบุว่า สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้น เกิดมาจากวาทะในการพูดของพระและเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผู้กระทำ ขณะนี้วัดไผ่ล้อมถูกสังคมมุ่งเป้าและมองมาทางที่วัด

เนื่องจากคนที่ไปเป็นลูกศิษย์ของอาตมาและบังเอิญเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และรถยนต์ที่ใช้เดินทางไปก็เป็นรถของวัดไผ่ล้อม เป็นรถกระบะเก่า ๆ ที่ไปดูแลงานก่อสร้างให้กับโยมที่กรุงเทพฯ ซึ่งลูกศิษย์ของว่าอาตมาทราบว่า อาตมาจะเดินทางไปที่ช่อง 8 แต่ได้ยกเลิกไป เนื่องจากเอกสารต่างๆไม่ครบ

โดยลูกศิษย์ที่ทราบนั้น ก็ไปรอกันตามปกติ ซึ่งกลุ่มที่ไปนั้นได้ไปนั่งรอทานกาแฟ ขณะที่ออกรายการสด ปรากฏว่าดูรายการแล้วเกิดอารมณ์ เนื่องจากมีการพูดพาดพิงและก้าวล่วงถึงอาตมา จึงทำให้เกิดอารมณ์และเหตุการณ์ดังกล่าว นี่คือสิ่งที่อาตมาได้รับฟังจากลูกศิษย์ที่ไปด้วย เป็นลูกศิษย์ของอาตมาเอง ขับรถไปเพื่อจะไปรออาตมาในสถานที่นั้น

ทั้งนี้อาตมาได้สั่งสอนลูกศิษย์ ทุกอย่างอยู่ที่อารมณ์ เข้าใจว่าทุกคนมีอารมณ์ อาตมภาพได้พูดกับพระรูปนี้ ถ้าเราไม่วางสติอารมณ์ ก็จะเกิดบันดาลโทสะอย่างแน่นอน ฉะนั้นเวลาพูดจาก็จะกวน ยียวนให้เกิดอารมณ์ โดยอาตมภาพจะไม่เกิดอารมณ์สามารถระงับได้ แต่กรณีนี้เคยสอนลูกศิษย์แล้วว่าอย่าใช้อารมณ์ การชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตัวเอง เราเห็นว่าเกิดจากความไม่พอใจและเข้าใจว่าเกิดจากความเคารพรักศรัทธาในตัวอาตมา แต่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง

อาตมาได้สั่งและสอนแล้ว จากเหตุการณ์ ไม่ได้เป็นการรุมทำร้าย จากภาพจะเห็นได้ว่า พระถูกกระโดดถีบไป 1 ที แล้วเดินออกไป แต่หากเกิดบันดาลโทสะมากกว่านี้ น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากกว่านี้ แล้วมากล่าวอ้างว่ามีชายฉกรรจ์ไป 3 คนไปรุมทำร้าย แต่นี่ไม่ใช่ กระโดดถีบด้วยการบันดาลโทสะ อาตมาได้เรียกมาตักเตือน และขอโทษทางสถานีด้วย ที่ลูกศิษย์ของอาตมาไปกระทำเช่นนั้น

อาตมามีมาตรการในการอบรมอยู่แล้ว และไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง แต่สิ่งที่ทำอาตมาไปห้ามไม่ได้ เพราะลูกศิษย์พูดว่าเกิดจากความเคารพศรัทธาในครูบาอาจารย์ และเกิดจากความที่ลูกศิษย์ไม่สบายใจที่อาตมาถูกพาดพิง เฉกเช่นเดียวกัน หากโยมถูกกล่าวหาผิด ๆ และเราไม่ได้ผิดจริงก็ทำให้เกิดอารมณ์ได้ เพราะฉะนั้นอาตมาไม่ได้สนับสนุนให้ใครมาใช้ความรุนแรงและอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ โดยห้ามในการใช้บันดาลโทสะ

สำหรับในเรื่องของด้านกฎหมายนั้น ต้องดู หากมีการพูดหมิ่นประมาทก็จะว่ากันไป แต่เราเป็นพระ ไม่อยากไปฟ้องร้องอะไรทั้งสิ้น และอาตมาไม่เคยไปทำอะไร หรือไปก้าวล่วงไปว่าคนนู้นคนนี้ จะสังเกตได้ว่าไม่เคยไปกล่าวว่าใคร สิ่งสำคัญที่สุดการที่ไม่กล่าวว่าใครปัญหาก็จะไม่เกิด และสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพราะเราไปว่าคนโน้นไม่ดีและไปสร้างศัตรูขึ้นมาให้กับตัวเราเอง

แม้กระทั่ง กัน จอมพลัง ก็ถูกพาดพิงเช่นกัน หาว่าเป็นผู้บงการหลวงพี่น้ำฝน กัน จอมพลัง ไม่สามารถมาบงการหลวงพี่น้ำฝนได้ มาดูถูกดูแคลนเรามากเกินไป เรามีสมองและสติปัญญา ไม่ใช่วัวควายให้ใครมาสนตะพายในการที่จะควบคุมเรา

แต่อาตมาเป็นพระสงฆ์จะไม่ทำเช่นนั้น ไม่มีการฟ้องร้องใดๆเราทำตามกฎของสงฆ์และภายใต้กฎมหาเถระสมาคม ทุกสิ่งทุกอย่างจบ หากท่านปฏิบัติอยู่ภายในวัดอยู่ภายในกรอบ อยู่ในขอบเขตของวัด ปัญหาไม่มีเกิดอย่างแน่นอน ปัญหาเกิดเพราะท่านออกมา จึงทำให้มีปัญหาอยู่ร่ำไป

อย่างที่ กันจอมพลัง เคยบอก ทุกอย่างมันอยู่ที่ปากของท่าน จะนำไปสู่ปัญหา ไม่ว่าจะเรียกแขก ก็มาจากการใช้ปาก ปัญหาจะเกิดอย่างแน่นอน เราเป็นพระสงฆ์อยู่ในกรอบอยู่ในระเบียบวินัยของคณะสงฆ์ อยู่ในการปกครองของเจ้าคณะพระสังฆาธิการในปกครองปัญหาไม่มีเกิดแน่นอน เกิดจากปากทุกอย่าง ปากของท่านจะนำไปสู่ความหายนะ อาตมาภาพขอเตือน อยากจะฝากไว้ขอให้อยู่ในกรอบของความเป็นพระ จะได้ไม่เกิดปัญหา คน 1 ล้านคนบอกว่าเราผิด เราจะยังบอกว่าตัวเราถูกมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ท่านควรปรับปรุงตัว

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า ในส่วนของสำนักพุทธศาสนา จะมีมาตรการในการจัดการ บางครั้งบางสิ่งบางบางอย่างยังไม่ถึงเวลา ก็จะมองว่าทางคณะสงฆ์หรือสำนักพุทธปล่อยปะละเลย แต่ความจริงแล้วกำลังดำเนินการร่วมกันแบบบูรณาการ สำนักพุทธจะคอยสนองงานพระภิกษุสงฆ์ สิ่งใดที่ร้องเรียนมาก็จะค่อยๆปรับและแก้ไขกันไป เรื่องร้องเรียนมีมาก ค่อยๆปรับและแก้ไขกันไป

สำหรับเรื่องนี้ อาตมภาพมองว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังใคร หากใครมองแบบนี้ ขอให้กลับไปเช็คสมอง เพราะฉะนั้นคนนั้นต้องไปเช็คสมอง ไม่น่ามีใครอยู่เบื้องหลังใคร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ท่านชอบไปก้าวล่วงกับศาสนาอื่นก็ยิ่งหนัก กฎของสงฆ์จะไปก้าวล่วงศาสนาอื่นไม่ได้ เราทำศาสนาเราให้ดีที่สุดก่อน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่ยังทำแบบนี้อยู่ปัญหาจะต้องตามมาหาอีกมาก

สำหรับผู้ที่ก่อเหตุนั้น อาตมภาพ ได้ประสานงานไป สน.นครบาล บางเขน ประสานไปเพื่อนัดวันที่จะเข้าไปดำเนินการตามกฏหมาย คนเราลูกผู้ชายทำผิดต้องยอมรับผิด เขาทำผิดที่เขาไปกระโดดถีบ ฉะนั้นทำผิดจะต้องเข้าไปยอมรับผิดและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการประสานงานไว้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับคนที่กระโดดถีบนั้น คือนายแขก ไม่ได้ทำงานอยู่ที่วัด แต่เฮียยุทธทำงานอยู่ที่วัดซึ่งเดินทางไปดูงานก่อสร้างของโยม ไปทำงานแถวนั้น เขาเลยแวะไปเจออาตมา เป็นลูกศิษย์ของอาตมาคือเฮียยุทธ แต่คนที่ก่อเหตุเขาอยู่บ้านแถวนั้นและเกิดไปด้วยกัน นี่คือความจริง ทุกคนเป็นลูกศิษย์หมด

ฉะนั้นคำว่าลูกศิษย์กับอาจารย์คงไม่มีใครอยากให้ใครไปก้าวล่วงอาจารย์ของตัวเอง หรือไปว่ากันจนทำให้เกิดอารมณ์ อาตมภาพได้เตือนแล้วว่า อย่าไปทำพร้อม ทั้งสั่งและสอนลูกศิษย์ของอาตมา ทั้งหมดเป็นศิษย์ของอาตมาทุกคน ไม่ได้ใครไปสั่งการ แต่เกิดจากบันดาลโทสะของผู้ก่อเหตุเอง ทุกอย่างเกิดจากตัวบุคคล แต่ส่วนตัวอาตมานั้น ยอมรับว่า ไม่ได้เกิดกิเลสแล้ว ดับกิเลสไปนานแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน