กรุงเทพฯ ไลฟ์เสนอรัฐบาล 4 ข้อ ปมแก้ฝุ่นพิษ PM 2.5 ผู้ว่าฯชัชชาติ แจง อยากทำใจจะขาด แต่อำนาจไม่มี ยันด่าได้ ไม่โกรธ

26 ม.ค. 68 – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ได้สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ผ่าน Facebook live สืบเนื่องจาก สถานการณ์พื้นที่ กทม. มีค่าเกินกว่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับสีส้ม และสีแดง ซึ่งกระทบต่อสุขภาพต่อเนื่องกันมาหลายวัน

โดยที่ค่าฝุ่นประจำวันที่ 26 มกราคม เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ยของกทม. อยู่ที่ 58.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

นายชัชชาติ ได้กล่าวถึงอำนาจการจัดการปัญหาจราจรในกทม. ที่มีไม่มากพอว่า กทม. ไม่มีอำนาจ 100 % ซึ่งมีข้อจำกัดเยอะ อาทิ กทม. ได้เคยเสนอทางรัฐบาลว่า

1. การเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม ตามหลัก PPP ซึ่งปัจจุบัน กทม. ไม่มีอำนาจในการเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม 2. การลดค่าความทึบแสงของการตรวจรถยนต์ควันดำ ค่าทึบแสงที่ผิดกฎหมายคือเกินร้อยละ 30 หลายครั้งจากการทดสอบเราเห็นว่ามีควันขาวค่าความทึบแสงร้อยละ 10 แบบนี้ก็ถือว่าผิด ซึ่งทางกทม. ขอให้มีอำนาจกำหนดเอง แต่ยังเป็นประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

3. เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการการจัดการกับรถควันดำ ตอนนี้ กทม.ทำได้แค่แจ้งแก้ไข และ 4. ขอให้ กทม.เป็นเจ้าพนักงานภายใต้ พรบ.ขนส่ง

“ปัจจุบันเราจับรถบรรทุก-รถเมล์ควันดำไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจของ พรบ. ขนส่ง กทม.จับได้เพียงรถกระบะ 4 ล้อ เท่านั้น ทุกอย่างที่ทางกทม. ขอไป เพื่อให้กทม. มีอำนาจมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่สภา กทม. ก็ได้เห็นชอบ ร่างข้อบัญญัติ ให้รถโดยสารสาธารณะในกทม. ให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้า EV ภายใน 7 ปี เพราะสิ่งที่ กทม.โดนด่าเยอะที่สุดก็คือ เรื่องรถเมล์ควันดำ แต่เมื่อถึงเวลา กฤษฎีกาแจ้งว่า กทม. ไม่มีอำนาจในการออกข้อบัญญัติ เพื่อกำหนดให้รถเมล์ใน กทม.เป็นในไฟฟ้า ซึ่งอำนาจเป็นของกรมการขนส่งทางบก

“ค่าความทึบแสงที่ตรวจได้ 10 แต่มาตรฐานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดที่ 30 ที่เราเห็นรถเมล์ควันขาวเยอะแยะบนถนน ก็ผ่านการตรวจมาเรียบร้อยซึ่งตรงนี้ก็ต้องปรับปรุงกฎหมายให้ดีขึ้น” นายชัชชาติ อธิบาย

นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม. เสนอรัฐบาลใหม่ ย้ายท่าเรือคลองเตย เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เพราะว่า มีรถขนส่ง รถบรรทุกของไป-กลับ 2 ล้านเที่ยวต่อปี ทำให้การจราจรเพิ่มขึ้นเป็นมหาศาล เราก็พยายามเสนอรัฐบาล แต่ก็ยังเป็นอำนาจของหน่วยงานอื่นอยู่ในปัจจุบัน

ด้านรถเก่ามีจำนวนมากในพื้นที่ กทม. มี 13 ล้านคัน ภาษีของประเทศไทยก็ได้ลดภาษีให้กับรถเก่า รถเก่าอายุ 6 ปี ลด ร้อยละ 10, รถ 7 ปี ลดร้อยละ 10, รถ 8 ปี ลดร้อยละ 10 และปีต่อไปเรื่อยๆ ร้อยละ 10 ฉะนั้นรถเก่ายิ่งจ่ายภาษีถูก จึงมีรถเก่าจำนวนมากและรถเก่าก็เพิ่มฝุ่นขึ้นมามากกว่ารถใหม่

“บางคนด่าว่า ทำไม กทม. มีแต่รถเมล์ควันดำ รถบรรทุกควันดำ เต็มถนนไปหมด เพราะ กทม.ไม่มีอำนาจจับ แม้อยากจับใจจะขาด กทม. มีอำนาจแค่รถ 4 ล้อ เพียงแจ้งให้แก้ไข 30 วัน และติดสติกเกอร์ กทม. อยากให้ขนส่งได้เข้ามาช่วยได้เราให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อจับรถเมล์รถบรรทุกให้ถูกต้องตามกฎหมาย” นายชัชชาติ อธิบาย

นายชัชชาติ กล่าวถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวว่า เราตั้งเป้าในการปลูกต้นไม้ไว้ 1,000,000 ต้น วันนี้เราปลูกไปแล้ว 1,225,336 ต้น ซึ่งเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ต้นไม้พวกนี้อาจจะไม่ได้มีผลในวันนี้ แต่ในอนาคตต้นไม้จะกว้างใหญ่ขึ้นและสามารถปกคลุมฝุ่นไม่ให้ฝุ่นลงมาถึงพื้นดินได้ง่ายขึ้น เราทำทุกวัน เราปลูกทุกวัน จะได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น แต่อาจจะไม่ได้เกิดผลภายในวันนี้ แต่อีก 5 ปี 10 ปีเกิดผลอย่างแน่นอน

ด้าน สวน 15 นาที ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 179 สวน เป็นเหมือนกับพื้นที่สีเขียวย่อยๆ ให้เราได้เข้าไปเดิน เพื่อให้เกิดผลกระทบกับฝุ่นน้อยลง เราทำมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา

“ยังมีหลายเรื่องที่กทม. ได้ทำไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่ดีพอ เราก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น เรายินดีหากใครไม่สบายใจในด้านใดหรือเรื่องใด ก็สามารถต่อว่า… ได้เลย เราไม่โกรธ เพราะ ผู้ว่าฯ ก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบทั้งหมดอยู่แล้ว เราก็ต้องมอบหมายงาน และทำงานให้ดีขึ้น” นายชัชชาติ ทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน