แห่ขายทองคำคึกคัก ราคาทองวันนี้ ปรับขึ้นลง 12 ครั้ง พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผย ร้านทองขนาดเล็กอยู่ไม่ได้ ปิดกิจการจำนวนมาก คาดปีนี้ ปิดตัวเพิ่มอีกเพียบ

วันที่ 11 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในร้านทองต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีประชาชนนำทองคำ ทั้งทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง มาขายกันอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่ช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาทองคำ ปรับตัวพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึงบาทละ 47,350 บาท ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นปรับลงอีกหลายครั้งตลอดทั้งวัน ซึ่งช่วงเวลา 12.00 น. มีการปรับราคาถึง 12 ครั้ง โดยทองรูปพรรณ ราคาบาทละ 46,147 บาท ทองคำแท่ง ราคาบาทละ 47,000 บาท

แห่ขายทองคำคึกคัก ราคาทองวันนี้ ปรับขึ้นลง 12 ครั้ง พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผย ร้านทองขนาดเล็กอยู่ไม่ได้ ปิดกิจการจำนวนมาก คาดปีนี้ ปิดตัวเพิ่มอีกเพียบ

แห่ขายทองคำคึกคัก ราคาทองวันนี้ ปรับขึ้นลง 12 ครั้ง พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เผย ร้านทองขนาดเล็กอยู่ไม่ได้ ปิดกิจการจำนวนมาก คาดปีนี้ ปิดตัวเพิ่มอีกเพียบ

ส่งผลให้ประชาชนที่มีทองคำอยู่ในมือ พากันแห่นำทองคำมาขายกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านทองต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีร้านทองตั้งอยู่กว่า 20 ร้าน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยเฉพาะที่ร้านทองกรุงเทพ ตราหัวใจคู่ ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนชาวโคราช นำทองมาขายกันตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา มาคอยดูแลความปลอดภัยร้านทองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันโจร ผู้ร้าย ที่อาจจะฉวยโอกาสช่วงราคาทองคำพุ่งสูง มาก่อเหตุวิ่งราวทองคำได้ในช่วงนี้

นางบุญเกิด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี หนึ่งในลูกค้าที่เข้ามาขายทองในร้าน กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์มาเปลี่ยน และนำแหวนทองคำหนัก 25 สตางค์ 2 วง มาขายด้วย ซึ่งตนติดตามสถานการณ์ราคาทองคำต่อเนื่อง รู้สึกตกใจมากที่ราคาทองคำช่วงนี้พุ่งสูงมาก

นางบุญเกิด กล่าวต่อว่า โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะนั้นราคาทองคำอยู่ที่ 18,000 กว่าบาท ตนก็คิดว่าแพงมากแล้ว จึงได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทมาขาย แต่ไม่คิดว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้น จนขณะนี้เกือบจะแตะ 50,000 บาทแล้ว จึงรู้สึกเสียดายมาก

นางบุญเกิด กล่าวอีกว่า ถ้าเก็บไว้ขายช่วงนี้ก็ได้เกือบ 1 แสนบาทแล้ว แต่ด้วยความจำเป็นต้องใช้เงิน ตอนนี้จึงตัดสินใจขายไป ทั้งนี้ตนเองก็เชื่อว่าราคาทองคำจะแพงขึ้นไปกว่านี้อีกแน่นอน

ด้าน นายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าทองคำ จ.นครราชสีมา และผู้บริหารร้านทองกรุงเทพ ตราหัวใจคู่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นบาทละกว่า 40,000 บาท เป็นต้นมา ก็ทำให้แรงซื้อทองคำตามห้างทองต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่นำทองคำมาขาย

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ซึ่งสถานการณ์ประชาชนนำทองคำมาขาย มีเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ราคาพุ่งสูงบาทละกว่า 30,000 บาทมาแล้ว ตอนนี้จึงมีเพียงบางคนที่ค่อนข้างมีฐานะระดับปานกลาง ถึงระดับฐานะดี ที่เข้ามาซื้อขายทองคำกับห้างร้านต่าง ๆ และส่วนใหญ่จะซื้อขายทองคำแท่งกัน เพราะราคาทองคำแพงมาก

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า จนทำให้ผู้มีฐานะตั้งแต่ระดับปานกลางถึงระดับชาวบ้านทั่วไป แทบจะเอื้อมไม่ถึง อีกทั้งราคาที่แพงคนที่คิดจะซื้อทองรูปพรรณไปสวมใส่ ก็ค่อนข้างที่จะกลัวความไม่ปลอดภัยต่อตนเองด้วย ส่งผลให้ห้างทองต่าง ๆ มีลูกค้าที่นำทองมาขายมากกว่าคนมาซื้อ คิดเฉลี่ยแต่ละวัน จะมีคนมาซื้อเพียง 30% ส่วนอีก 70% จะเป็นคนมาขายทั้งหมด

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นสถานการณ์คนซื้อมากกว่าคนขายเช่นนี้ ก็ทำให้ห้างทองขนาดเล็กอยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินทุนสำรองสำหรับซื้อทองคำ ประกอบกับทองที่อยู่ในร้านก็ขายไม่ค่อยออก ขนาดกรอบพระ ที่เคยมีกลุ่มลูกค้านำมาเลี่ยมบ่อย ๆ ตอนนี้ราคาทองคำ 1 สลึงก็ 10,000 กว่าบาทแล้ว ทำให้แทบจะไม่มีลูกค้ามาเลี่ยมกรอบพระกันเลย

นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อห้างทองขายทองไม่ค่อยออก ก็ได้กำไรน้อย ห้างทองขนาดเล็กจึงต้องปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงปี 67 ที่ผ่านมา ห้างทองขนาดเล็กในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ปิดตัวไปแล้ว 6-7 ร้าน และหากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องอยู่เช่นนี้อีก ก็คาดว่าปี 68 นี้ ห้างทองขนาดเล็กในพื้นที่จะปิดตัวเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 ร้านแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน