บีบีซีรายงานวันที่ 28 เม.ย. ว่า หนูน้อยอัลฟี อีวานส์ วัย 23 เดือน ผู้ป่วยสภาพกึ่งผักที่เป็นข่าวสะเทือนใจผู้คนมายาวนานนับปี สิ้นลมแล้ว หลังถอดเครื่องช่วยหายใจมานาน 1 สัปดาห์ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่เด็กกับคณะแพทย์โรงพยาบาลเด็กแอดเลอร์ฮีย์ ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ

 

ACTION4ALFIE

นายทอม อีวานส์ แจ้งข่าวนี้ทางเฟซบุ๊ก ว่าลูกรักจากไปเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 28 เม.ย.
“แกลดิเอเตอร์ของผมวางโล่ลงและกางปีกแล้ว…ใจร้าวรานจริงๆ”

ขณะที่โรงพยาบาลออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจกับครอบครัวเด็ก และร่วมโศกเศร้ากับการจากไปของหนูน้อย

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 20 เม.ย. นายทอม อีวานส์ และนางเคต เจมส์ พ่อแม่เด็กแพ้คดีที่ขอให้ศาลฎีกาเห็นชอบกับการถอดเครื่องช่วยหายใจให้ลูก ศาลวินิจฉัยว่าคณะแพทย์ของโรงพยาบาลควรมีอิสระในการตัดสินใจว่าวิธีการใดดีที่สุดสำหรับคนไข้

พ่อแม่ของหนูน้อยต้องการพาลูกที่ป่วยด้วยโรคทางสมองและอยู่ในภาวะเป็นเจ้าชายนิทรา ย้ายไปอยู่โรงพยาบาลในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อรับการรักษาที่ใช้ยาบรรเทาอาการ แต่ทางโรงพยาบาลไม่ยินยอม ทำให้พ่อแม่เด็กพยายามต่อสู้มาตลอด แต่ก็แพ้ในทุกศาล ไม่ว่าชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกาไปจนถึงศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรปที่ไม่เข้าแทรกแซง

พ่อแม่ของหนูน้อย

หนูน้อยเกิดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 และเข้าโรงพยาลแห่งนี้ด้วยโรคทางสมองดังกล่าวในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน

ต่อมาพ่อแม่เด็กต้องการย้ายลูกออกจากโรงพยาลนี้ไปยังอิตาลี แต่คณะแพทย์ไม่ยินยอม เพราะเห็นว่าไม่ใช่วิธีที่ดีกับเด็ก เพราะการใช้ยาบรรเทาอาการนั้นจะไปทำลายเนื้อเยื่อสมอง เป็นวิธีที่ไม่เมตตากรุณากับคนไข้

การต่อสู้ของพ่อแม่อัลฟีได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและสาธารณชนอังกฤษอย่างกว้างขวาง ขณะที่มีกลุ่มประชาชนร่วมประท้วงโรงพยาบาลด้วย สองฝ่ายต่อสู้ในศาลมานาน 4 เดือน พ่อแม่เด็กตำหนิเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ขังลูกไว้ราวกับนักโทษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน