13ปีที่พลัดพราก! เด็กสาวชาวจีนพบครอบครัวอีกครั้ง หลังหลงทางกลับบ้านไม่ถูก
เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานว่า วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ไคลี่ โบเวอร์ เด็กสาววัย 18 ปี ได้กลับไปพบครอบครัวของตัวเองในประเทศจีน หลังจากพลัดพรากกันเป็นเวลา 13 ปี เหตุเพราะ หลงทาง จนกลับบ้านไม่ได้ต้องไปอยู่สถาบันสังคมสงเคราะห์เด็ก และคู่รักชาวอเมริกันคู่หนึ่งได้รับไปเลี้ยงดู
เมื่อเดือน พ.ค. พ.ศ.2548 ไคลี่ หรือชื่อเดิมว่า เหลียง จิงหลาง ถูกเหลียง หัว พ่อของเธอ พาตัวจากบ้านเกิดไปยังเขตชุ่นเต๋อในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายเหลียง แต่อย่างไรก็ตาม หอพักของนายเหลียงไม่อนุญาตให้ไคลี่อยู่กับพ่อของเธอ เขาจึงส่งไคลี่ไปอยู่ในความดูแลของพี่ชาย ที่อาศัยอยู่ในเมืองจงซาน
วันที่ 20 พ.ค. ปีเดียวกัน ไคลี่ที่เป็นเพียงเด็กน้อยวัย 5 ขวบเกิดคิดถึงบ้านเกิดและพยายามหาทางกลับจนกลายเป็นเด็กหลงทาง ในวันนั้นหญิงชราคนหนึ่งพบเธอข้างสะพานและนำเธอส่งสถานีตำรวจ ซึ่งไคลี่ไม่สามารถสื่อสารกับตำรวจได้เข้าใจ เธอเพียงพูดถึงบ้านเกิดของเธอเท่านั้น
ไคลี่ถูกส่งตัวไปยังสถาบันสังคมสงเคราะห์เด็กในเมืองจงซาน และให้ชื่อใหม่กับเธอว่า จง เฟงหมิน เธอพักอยู่ที่สถาบันสังคมสงเคราะห์เด็กเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะถูกส่งไปยังบ้านของครอบครัวอุปถัมภ์ในปี พ.ศ. 2555 ที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา
ทางนายเหลียง หลังจากลูกสาวของเขาหายตัวไป เขาตามหาตัวเธอในแต่ละเมือง และเมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดปี เขาออกจากงานเพื่อตามหาลูกสาวของเขา แม้ว่าเขาจะถูกบังคับให้กลับไปทำงานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว แต่นายเหลียงและภรรยาไม่ยอมแพ้ เขายังคงหวังว่าลูกสาวเขาจะได้กลับบ้านในสักวันหนึ่ง
เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ไคลี่เริ่มหาพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอโดยได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่บุญธรรม เธอเขียนโพสต์บนเว็บไซต์ของกรุ๊ปอาสาสมัคร Baobai Huijia (宝贝回家) โดยลงรายละเอียดว่าเธอพลัดพรากจากพ่อแม่เมื่อ 15 ปีก่อน
หนึ่งเดือนต่อมา นายเหลียงเห็นโพสต์ดังกล่าวและพยายามติดต่อเธอผ่านแอพพลิเคชั่นวีแชท เขาถามไคลี่หลายคำถาม เช่นเธอจำเรื่องที่เธอไหล่หลุดหลังจากตกเวทีของโรงหนังหน้าบ้านได้หรือไม่ ซึ่งไม่นานจากนั้น ไคลี่ก็พิมพ์ตอบว่า “คุณคือพ่อของหนู”
สัปดาห์ต่อมา ตำรวจได้ผลพิสูจน์ดีเอ็นเอและยืนยันว่า ไคลี่ โบเวอร์ เป็นลูกสาวที่หายไป 13 ปี ของนายเหลียง นายเหลียงกับไคลี่ได้พบกันอีกครั้งที่ ท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจวไป๋-ยฺหวิน เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา
“ฉันมีความสุขกับไคลี่ด้วยจริงๆ เธออยากตามหาครอบครัวของเธอเสมอ ฉันบอกเธอว่านั่นเป็นเรื่องดี การมีสองครอบครัวจากสองประเทศที่รักเธอ” แม่บุญธรรมของไคลี่กล่าว
ไคลี่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ แม่บุญธรรมของเธอกล่าวว่าไคลี่อยากศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศจีนอีกด้วย
คลิกชมคลิปวิดีโอ…
