ฤทธิ์ไต้ฝุ่นเชบี ซัดญี่ปุ่นน่วม สนามบินคันไซท่วมมิดเครื่องบิน ยันตายแล้ว 11 ศพ
ฤทธิ์ไต้ฝุ่นเชบี ซัดญี่ปุ่นน่วม – 5 ก.ย. เว็บไซต์เอ็นเอชเค ของประเทศญี่ปุ่น รายงานข่าว ความคืบหน้าความเสียหายจากเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นเชบีถล่มโอซาก้าและสนามบินนานาชาติคันไซเมื่อวานนี้ ล่าสุดทางการได้ออกมาเผยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด 11 ราย ผู้ได้จับบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย และสิ่งก่อสร้างจำนวนมากได้รับความเสียหาย ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพัง
เหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นเชบีถล่มญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ ถือเป็นพายุครั้งใหญ่ที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ ทำให้เที่ยวบินทั้งหมด 162 เที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติคันไซทั้งหมดถูกยกเลิก ทำให้ผู้โดยสารกว่า 3,000 คนยังคงติดค้างอยู่ในสนามบิน
ผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยความรู้สึกนาทีพายุถล่ม
ชายผู้โดยสารคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์และติดค้างอยู่ในสนามบินได้ออกมาเปิดใจว่า“ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็รู้สึกดีใจที่ทุกอย่างกลับสู่สถานการณ์ปกติและปลอดภัย”
ส่วนผู้โดยสารหญิงอีกคนเผยว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่หนักหนามาก ตอนพายุถล่มฉันรู้สึกกังวลเพราะเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย ไม่มีอำนาจที่จะติดสินใจอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญไม่มีอาหาร”
รายงานความเสียหายครั้งใหญ่จากพายุ
รายงานระบุว่ากระแสลมแรงจากพายุเชบีในครั้งนี้ ได้พัดให้เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ชนเข้ากับสะพานข้ามทะเลที่เชื่อมไปยังสนามบิน จนได้รับความเสียหายไป 1 เลน ส่วนลูกเรือทั้ง 11 คนได้รับความช่วยเหลืออพยพออกจากเรือเรียบร้อยแล้วและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเช้าวันนี้ทางการได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่ไปลากเรือออกจากสะพานเชื่อมสะนามบินเรียบร้อยแล้ว
พายุเชบียังทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายอีกเป็นวงกว้างทั้งจากแรงลมพายุและน้ำท่วมสูง ส่วนรถยนต์อีกหลายร้อยคันก็ถูกพัดจนปลิว,หลังคาถูกฉีกจนเปิดออกและเกิดไฟไหม้จนวอดทั้งคัน
นอกจากนี้ ยังมีเด็กๆที่มาร่วมทริปทัศนศึกษาของโรงเรียนติดค้างอยู่บริเวณภูเขาเกียวโตที่ถนนทางกลับถูกตัดขาดด้วยพายุ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังประสานงานเพื่ออพยพเด็กๆออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ส่วนสถานการณ์ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งประสานงานในการทำความสะอาดซากปรักหักพังและซากความเสียหายทั้งหมดให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งรถไฟชินคันเซ็นได้กลับมาเปิดให้บริการแล้วในวันนี้ แต่บ้านเรือนประชาชนหลายแสนหลังคาเรือนยังต้องใช้ชีวิตอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าและไฟจราจรบนถนนในช่วงนี้
ชมคลิป..