มกุฎราชกุมารซาอุฯตรัสแล้ว คดีนักข่าวถูกฆ่า – ตุรกีแกะรอยที่ซ่อนศพ

มกุฎราชกุมารซาอุฯตรัสแล้ว – เมื่อ 26 ต.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าคดีนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบียที่ลี้ภัยอยู่นอกประเทศ และเป็นคอลัมนิสต์ให้วอชิงตันโพสต์ สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐ ถูกฆ่าตายในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียตรัสถึงกรณีนี้เป็นครั้งแรก ระหว่างการประชุมนักลงทุนที่หลายประเทศยกเลิกมาร่วมจากเหตุของคดีอื้อฉาวนี้ ซึ่งพระองค์ทรงตกเป็นข่าวลือว่าอาจเป็นผู้บงการ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยบางคนเป็นคนสนิทของพระองค์

มกุฎราชกุมารตรัสว่า คดีสังหารนายคาช็อกกีเป็นอาชญากรรมที่โหดร้ายและไร้เหตุผล สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์อันน่าเจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับชาวซาอุฯ ทั้งหมดและทุกคนในโลก

“ซาอุดีอาระเบียจะใช้กฎทุกอย่างที่จำเป็นและการสอบสวนอย่างจริงจังเพื่อให้บรรลุผล นำตัวผู้ก่ออาชญากรรมเลวร้ายนี้มาขึ้นศาล” มกุฎราชกุมารรับสั่ง

มกุฎราชกุมารซาอุฯตรัสแล้ว

มกุฎราชกุมารซาอุฯตรัสแล้ว A handout picture provided by the Saudi Royal Palace on October 24, 2018, shows Saudi Crown Prince Mohammed bin Salman (Photo by Bandar AL-JALOUD / Saudi Royal Palace / AFP)

คดีดังกล่าวสร้างความมัวหมองให้ราชอาณาจักรซาอุฯ ครั้งใหญ่ ซ้ำเติมวิกฤตที่ซาอุฯเข้าไปแทรกแซงสงครามนองเลือดในเยเมน มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วนับหมื่น รวมถึงวิกฤตที่ซาอุฯ ถูกครหาว่าลักพาตัวนายกรัฐมนตรีเลบานอน และกรณีกวาดล้างผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของตนเอง

Saudi Crown Prince Mohammed bin Salman (Photo by FAYEZ NURELDINE / AFP)

แม้รัฐบาลซาอุฯ ยืนกรานปฏิเสธว่า สมเด็จพระราชาธิบดีและมกุฎราชกุมารต่างทรงไม่ทราบถึงปฏิบัติการดังกล่าว แต่ทางการตุรกีหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาต่างเห็นว่า การส่งทีมสังหารจากซาอุฯไปยังอิสตันบูลถึง 15 นายนั้นไม่มีทางทำได้หากไม่ได้รับคำสั่งจากผู้ครองนคร

REUTERS

ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนตุรกีรายงานเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยนาทีที่รถยนต์สีดำ เลขทะเบียนนักการทูตของสถานกงสุล คันเดียวกับที่เจ้าหน้าทีตำรวจไปตรวจพบว่าจอดทิ้งไว้ที่อุโมงค์ชั้นใต้ดิน วิ่งเข้าไปสำรวจในป่าเบลเกรดนอกนครอิสตันบูล ช่วงก่อนเกิดเหตุสังหารนายคาช็อกกี เป็นไปได้ว่าเข้าไปสำรวจหาที่ซ่อนชิ้นส่วนศพไว้ก่อนการลงมือวันที่ 2 ต.ค.

เจ้าหน้าที่ตุรกีเผยกับสำนักข่าวเอพี ว่า ทีมสอบสวนกำลังค้นหาความเป็นไปได้ที่ชิ้นส่วนศพของนายคาช็อกกีถูกฝังซ่อนอยู่ในสองสถานที่ หลังจากถูกชำแหละโดยผู้เชี่ยวชาญ

ด้านเจ้าหน้าที่ซาอุฯ เผยกับซีเอ็นเอ็น ว่าแผนเดิมของทีมที่ถูกส่งมาคือเกลี้ยกล่อมนายคาช็อกกีให้กลับประเทศ ถ้านายคาช็อกกีปฏิเสธ ขั้นตอนต่อไปจึงวางยาสลบและเอาตัวไปเซฟเฮาส์ กักไว้ 48 ชั่วโมง ถ้ายังปฏิเสธอีก ทีมชุดนี้จึงจะกลับประเทศ แล้วให้ผู้ร่วมมือในตุรกีปล่อยนายคาช็อกกีไป แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผน

เจ้าหน้าที่ซาอุฯ เผยด้วยว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปจัดการลบหลักฐานทุกอย่างในสถานกงสุลและเซฟเฮาส์เพื่อไม่ให้มีข้อพิสูจน์ว่านายคาช็อกกีถูกลักพาตัว

ขณะที่นิวยอร์กไทมส์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ในทีมสังหาร 15 นายที่ถูกส่งมา 9 นายเข้าไปในสถานกงสุล โดยผู้เชี่ยวชาญนิติเวชมีเลื่อยสำหรับเลื่อยกระดูกด้วย ส่วนอีก 3-4 นายทำหน้าที่รีดเค้นข้อมูลจากนายคาช็อกกี และที่เหลือรออยู่ที่เซฟเฮาส์เพื่อคอยช่วยเหลือ

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

ช็อตจ้องพระเนตร ลูกชาย‘คาช็อกกี’เข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารซาอุฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน