ลูกชายนักข่าวดังซาอุฯ ขอร้องผู้บงการฆ่า โปรดคืนศพพ่อ

ลูกชายนักข่าวดังซาอุฯซีเอ็นเอ็น รายงานวันที่ 5 พ.ย. ถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบีย และคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ ในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. ว่า ลูกชายสองคนของนายคาช็อกกีเปิดใจครั้งแรกกับซีเอ็นเอ็น ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ร้องขอให้ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังกรณีดังกล่าว เร่งคืนศพพ่อเพื่อให้ครอบครัวได้นำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

นายซาลาห์ เข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารโมฮัมหม็ด หลังจากพ่อถูกฆ่า

นายซาลาห์ คาช็อกกี วัย 35 ปี ลูกชายคนโต กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือ ครอบครัวพร้อมหน้าได้ฝังศพพ่อที่สุสานอัล-บากิในเมืองอัลมะดีนะฮ์ ทางตะวันตกของซาอุฯ ตนพูดเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ซาอุฯ เช่นกัน หวังเหลือเกินว่าความปรารถนาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเร็ววัน

ส่วน นายอับดุลเลาะห์ คาช็อกกี วัย 33 ปี ลูกชายคนรอง กล่าวถึงชะตากรรมสลดของพ่อตนเองว่า หวังได้แต่ว่าช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตพ่อจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่เจ็บปวด

“ผมหวังจริงๆ ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจะไม่เจ็บปวดสำหรับพ่อ หรือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือเป็นการตายที่สงบ” นายอับดุลเลาะห์ กล่าวระหว่างสัมภาษณ์พิเศษกับซีเอ็นเอ็น หลังจากทางการซาอุฯ ยอมให้เดินทางออกนอกประเทศ

นายคาช็อกกีเดินเข้าไปยังสถานกงสุลซาอุฯ แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย Courtesy TRT World/Handout via Reuters REUTERS

สองพี่น้องตระกูลคาช็อกกียังกล่าวว่าพ่อของพวกตนเป็นคนอบอุ่น ใจดี และมีความสุข ใครๆ ก็ชอบและชื่นชม นายคาช็อกกีเป็นพ่อที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่กลับถูกเข้าใจผิด รวมถึงตกเป็นเหยื่อของความพยายามให้คนอื่นเข้าใจผิดด้วยเหตุผลทางการเมือง

ก่อนหน้านี้วอชิงตันโพสต์เพิ่งเปิดเผยว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ตรัสขณะหารือกับนายจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ว่านายคาช็อกกีเป็นสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิม หรือมุสลิมบราเธอร์ฮูด ซึ่งนิยมแนวคิดมุสลิมสุดโต่ง และถือเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ แต่ทางการซาอุฯ ปฏิเสธการกล่าวอ้างของสื่อชั้นนำ

ลูกชายนักข่าวดังซาอุฯ

สองพี่น้องให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น/ CNN

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากให้นายคาช็อกกีเป็นที่จดจำแบบใด นายซาลาห์กล่าวว่าอยากให้คนจดจำพ่อในฐานะคนดีคนหนึ่งที่รักประเทศ และเชื่อมั่นในความศักยภาพของซาอุฯ

“พ่อไม่เคยเป็นผู้ต่อต้าน เขาเชื่อมั่นในระบอบกษัตริย์และว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว และพ่อก็เชื่อในการปฏิรูปที่กำลังเกิดขึ้น” ลูกชายคนโตกล่าว

++++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน