สหรัฐฉีดพิษประหาร นักโทษฆ่าลูกเมีย เผยถ้อยคำสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต

สหรัฐฉีดพิษประหาร – เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เอพี และเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เมืองฮันส์วิลล์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ประหารชีวิต นายโรแบร์โต โมเรโน รามอส อายุ 64 ปี ชาวเม็กซิกัน ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมสังหารลูกเมียเมื่อ 26 ปีก่อน ด้วยการฉีดยาพิษร้ายแรงแล้ว แม้จะมีกลุ่มประท้วงการประหาร และพยายามต่อสู้ว่า นักโทษรายนี้ก่อเหตุจากความบกพร่องทางร่างกายที่สมองส่วนหนึ่งเสียหาย และยังมีอาการทางจิตไบโพลาร์

นายรามอสถือเป็นนักโทษที่ถูกประหารชีวิตเป็นรายที่ 21 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นรายที่ 11 ของรัฐเท็กซัส ในปีนี้ สื่อมวลชนสหรัฐรายงานคำพูดครั้งสุดท้ายของนักโทษประหารก่อนเข้ารับการฉีดยาตายว่า ขอขอบคุณสถานกงสุลเม็กซิโกประจำสหรัฐอเมริกาที่ให้ความช่วยเหลือในการยื่นอุทธรณ์คดีของตน และว่า รู้สึกซาบซึ้งที่เรือนจำในรัฐเท็กซัสให้การปฏิบัติด้วยหลักมนุษยธรรม

“ผมได้รับนาฬิกาข้อมือทองคำที่ท่านผู้ว่าการใช้เวลาทำปลอม 30 ปีแล้ว” นายรามอสกล่าวโดยไม่ให้รายละเอียดที่มาที่ไป ก่อนเอ่ยถ้อยคำสุดท้ายว่า “ขอบคุณพระเจ้า ส่งรถม้ามารับผมด้วย ผมพร้อมแล้ว”

สหรัฐฉีดพิษประหาร

สำหรับการประหารชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ฉีดยาระงับประสาทชนิดรุนแรงให้นายรามอส จากนั้นนายรามอสหายใจเข้าลึกๆ อยู่ครู่หนึ่งและเริ่มกรน ก่อนจะหยุดเคลื่อนไหวร่างกายภายในไม่กี่วินาที และเสียชีวิตอีก 11 นาทีถัดมา เจ้าหน้าที่ประกาศว่าสิ้นใจเมื่อเวลา 21.36 น. โดยไม่มีเพื่อนหรือญาติพี่น้อง ทั้งของนายรามอสและของเหยื่อฆาตกรรม มาเป็นพยานการประหารชีวิต

สำหรับคดีที่นายรามอสก่อขึ้นเคยเป็นที่สะเทือนขวัญไปทั่ว เมื่อใช้ค้อนทุบภรรยาและลูกน้อย 2 คน ที่บ้านพักของตัวเอง ในเมืองโปรเกรโซ ใกล้ชายแดนเม็กซิโก เมื่อปี 2535 แล้วซ่อนศพไว้ใต้กระเบื้องห้องน้ำ จากนั้นอีก 3 วัน จึงไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นที่ไม่รู้ว่านายรามอสมีครอบครัวอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทางการเม็กซิโกเรียกร้องให้ละเว้นโทษประหารชีวิตนายรามอส ด้วยเหตุผล โต้แย้งว่า นายรามอสเป็นคนของเม็กซิโกที่ถูกตัดสินความผิดในสหรัฐอเมริกา และไม่เคยได้รับแจ้งข้อมูลว่า นายรามอสมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากรัฐบาลเม็กซิโก

ทางการเม็กซิโกตั้งโต๊ะแถลงคัดค้านการประหาร / El Universal

ศาลสูงสุดสหรัฐเปิดทางให้มีการประหารชีวิตนักโทษเมื่อค่ำวันที่ 15 พ.ย. ปฏิเสธคำอุทธรณ์ 2 ครั้ง ที่พยายามละเว้นการฉีดยาตายนายรามอส

นายดานาลินน์ เรเซอร์ ทนายความอุทธรณ์ของนายรามอส พยายามต่อสู้ให้ศาลสูงสุดละโทษประหาร โดยให้รายละเอียดว่า นายรามอสถูกพ่อบังเกิดเกล้าทำร้ายร่างกายอย่างหนักตั้งแต่วัยเด็ก เป็นโรคบุคลิกสองขั้วมาเกือบตลอดชีวิต และในช่วงก่อเหตุฆาตกรรม สมองบางส่วนเสียหาย กระทบต่อความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความยับยั้งชั่งใจ

อย่างไรก็ตาม สำนักงานอัยการสูงสุดประจำรัฐเท็กซัสกล่าวว่า โทษประหารชีวิตนายรามอสถือว่าเหมาะสมแล้ว เนื่องจากเป็นคนรุนแรงและอันตราย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นักโทษขอยิงเป้าไม่ให้ สหรัฐฉีดยาประหารรายที่ 12 ของปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน